บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561

ราชบุรี เปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรชายแด


 เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวบริเวณบ้านหนองตาดั้ง อ.สวนผึ้ง ชมวิถีชีวิตธรรมชาติของชุมชนชาวกะเหรี่ยง ประเพณีอั้งหมี่ถ่อง การตีเม็ดเงิน การทอผ้า   การขี่เกวียนเทียมควาย พร้อมเลือกซื้อพืชผักผลไม้ปลอดสา



    
วันที่ 5 กันยายน 2561   นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  นายพินิจ เจริญเร็ว เกษตรจังหวัด นายประทีป  เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี  พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่บริเวณบ้านหนองตาดั้ง หมู่ที่ 6  ต.คระนาวศรี อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี   ซึ่งได้ระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยร่วมกับชุมชนพัฒนาโรงเรียนควายบ้านหนองตาดั้งจัดขึ้น เพื่อมุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมวิถีธรรมชาติของชาวกะเหรี่ยงแบบดั้งเดิม ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม อาทิ ร่วมสืบสานประเพณีกินข้าวห่อ หรือ อั้งหมี่ถ่อง เป็นพิธีของชาวกะเหรี่ยงที่จะจัดขึ้น มีการนำข้าวเหนียวห่อเป็นกรวย แล้วนำมาต้มให้สุกคล้ายขนมจ้าง สมัยก่อนเวลารับประทานใช้จิ้มกับน้ำผึ้ง ปัจจุบันใช้จิ้มกับมะพร้าวขูด ในวันต้มข้าวห่อ จะมีพิธีสู่ขวัญด้วย เริ่มด้วยการเคาะไม้เป่าแคน เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน จากนั้นผู้เฒ่าผู้แก่ในครอบครัวจะใช้เชือกแดงผูกข้อมือให้ลูกหลานเพื่อความเป็นมงคลแก่ตัวเอง  ชมการแสดงพื้นบ้านวิถีกะเหรี่ยง และมีการให้นักท่องเที่ยวได้สวมชุดกะเหรี่ยงถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมกับยังได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยงแบบจำลองที่ได้นำมาจัดแสดง อีกทั้งยังมีกิจกรรมการตีเม็ดเงิน การทอผ้าของชาวกะเหรี่ยงเช่น กระเป๋า ย่าม และเสื้อพื้นเมือง  และผลิตภัณฑ์พื้นบ้านต่างๆ มีกิจกรรมขี่เกวียนเทียมควาย ถ่ายรูป  การไถนาด้วยควาย กิจกรรมโยนกล้าในนาข้าว การนวดข้าวด้วยควาย การสีข้าวแบบดั้งเดิม และซุ้มผักพื้นบ้าน สินค้าแปรรูปต่างๆมากมาย
        สำหรับหมู่บ้านหนองตาดั้งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี มีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงประมาณ 42 ครัวเรือน มีการทำการเกษตร ปลูกข้าว ปลูกผัก ผลไม้ไว้กินเอง  ซึ่งทางราชการได้จัดสรรพื้นที่ไว้ให้ชาวบ้านอยู่อาศัยและทำกิน ครัวเรือนละ 8 ไร่ มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ ทำให้ชาวบ้านมีน้ำกิน น้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี โดยสภาพพื้นที่ของหมู่บ้านโอบล้อมด้วยภูเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีโรงเรียนควายซึ่งปัจจุบันมีควายทั้งหมด 119 ตัว ซึ่งได้เลี้ยงไว้เพื่อขยายพันธุ์ในโครงการจำนวน 51 ตัว  ที่เหลือ อีก 68 ตัว  นำเข้าโครงการธนาคารควาย  แบ่งให้ชาวบ้านจำนวน 42 ครัวเรือน โดยมีกติกาว่า จะต้องมาฝึกใช้ควายให้เป็น และหากเลี้ยงแล้วได้ลูกตัวเมีย ให้ส่งคืน เพื่อนำกลับมาต่อยอดโครงการ ส่วนถ้าเลี้ยงได้ ลูกตัวผู้ก็จะมอบให้กับผู้เลี้ยง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
           ทางด้าน นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดเผยว่า อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวลองมาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์แห่งใหม่ที่เปิดตัวที่โรงเรียนควายบ้านหนองตาดั้ง อยู่ห่างจากที่ว่าการอ.สวนผึ้งประมาณเกือบ 40 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย แถมยังมีแพ็กเกจที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบ้านหนองตาดั้งจัดไว้รองรับ ไม่ว่าจะเป็นการดำนา  ขี่ควาย กินข้าวกะเหรี่ยง มีพืชผักปลอดสารพิษที่ปลูกโดยชุมชนชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ชายแดนฝั่งตะวันตกของประเทศไทย สามารถติดต่อได้กับอดีตผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนวิถีธรรมชาติที่นี่ หากเป็นกรุ๊ปเริ่มที่ 10 คนขึ้นไปจะจัดบริการให้ครบวงจร  เช่น ขี่ควาย ปลูกข้าว กินข้าวกะเหรี่ยง พาเที่ยวชมธรรมชาติบริเวณบ้านหนองตาดั้งในราคาเพียง 350 บาทต่อคน จัดบริการทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ยกเว้นหากจะมาวันธรรมดานั้นขอให้นัดหมายกันล่วงหน้าประมาณ 2- 3 วัน ซึ่งทางกลุ่มฯก็พร้อมที่จะจัดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่สนใจ ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกองพลพัฒนาที่ 1 เป็นกองกำลังที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัด มีเจ้าหน้าที่ทหารประจำอยู่ตลอดเวลาและอยู่ในสถานการณ์สงบพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ราชบุรี มอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลโพธาราม



 สโมสรโรตารี่โพธารามร่วมกับโรตารี่สากลช่วยเหลือสังคม จัดโครงการอบรมการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันพร้อมมอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลโพธารามจำนวน เครื่อง



                  ที่ห้องประชุมสารวจี โรงพยาบาลโพธาราม จ.ราชบุรี ดร.นพ. พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 5 เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องช่วยหายใจ   นายพีระ ฟาร์มไพบูลย์ โรตารี่สากลภาค 3330 พร้อมด้วยนางขวัญใจ กมลพันธ์ทิพย์  นายกสโมสรโรตารี่โพธารามร่วมกันมอบให้กับโรงพยาบาลโพธาราม โดยมี นายแพทย์เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธารามเป็นผู้รับมอบเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดันจำนวน  2  เครื่อง มูลค่า 1,700,000 บาท     พร้อมด้วย แพทย์ พยาบาล และบุคลากรในโรงพยาบาลโพธาราม สาธารณะสุข  และกลุ่ม  อสม. กว่า 150 คนเข้าร่วมรับมอบและเข้ารับการอบรมการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตัน  โดยทางสโมสรโรตารี่โพธารามได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ป่วย ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการประคองชีวิตจนกว่าแพทย์จะสามารถทำการรักษาได้ จึงจัดทำโครงการเพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดันพร้อมทั้งสนับสนุนการอบรมให้ความรู้เป็นจำนวนเงินกว่า  2 ล้านบาทเพื่อมาดำเนินการกิจกรรมในครั้งนี้
 สำหรับโครงการอบรมเรื่องการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตัน โดยให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมองเพื่อให้สามารถให้คำแนะนำประชาชนได้ อัตราความพิการของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองลดลง ประชาชนกลุ่มเสี่ยงประชาชนทั่วไป มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคหลอดเลือดสมอง การดูแลรักษาและการป้องกันการเกิดโรคเบื้องต้น

วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี เปิดงานราชบุรีไชน่าทาวร์ 2018


  ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเปิดงานราชบุรีไชน่าทาวร์เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนพร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว                 


ที่บริเวณเวทีริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลอง  อ.เมือง  จ.ราชบุรี   นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานราชบุรี ไชน่าทาวน์ 2018 พร้อมด้วยนางเพ็ญจันทร์  จันทรนายกเหล่ากาชาดราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานทหาร ตำรวจ โดยมีนายภูวนารถ สุภาพเพชร ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรี เมืองราชบุรี กล่าวรายงาน เทศบาลเมืองราชบุรี ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานนี้ขึ้นในระหว่างวันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ถือว่าเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ทางจังหวัดราชบุรี มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้จัดงานราชบุรีไชน่าทาวน์ขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งเป็นการส่งเสริการทอ่งเที่ยวของจังหวัดราชบุรี โดยจัดให้มีกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมจีนบนเวที การประกวดหมวยน้อย ตี๋น้อยไชน่าทาวน์ การแสดงสิงโต มังกร การแสดงจากทีมสะบัดลาย มีการจำลองศาลเจ้าสำหรับผู้ที่เคารพมากราบไว้บูชา การผัดหมี่มงคลกระทะยักษ์ รวมทั้งขบวนแห่ที่สวยงามและจุดถ่ายภาพต่าง ๆ 

ซึ่งหลังจากผู้ว่าฯได้เปิดพิธีแล้วก็ได้เดินทางไปยังกระทะยักษ์เพื่อผัดหมี่และแจกจ่ายให้กับแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ให้กินกันฟรี ๆ เพื่อความเป็นศิริมงคลเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และทางด้านนางเพ็ญจันทร์  จันทร ก็ได้ป้อนหมี่ให้กับพ่อเมืองของเรา ดูแล้วก็น่ารักกันไปอีกแบบ




ราชบุรี พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ



จังหวัดราชบุรีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU) การส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนและพัฒนาต้นแบบจังหวัดราชบุรีเมืองสุขภาวะ
ที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรีนายวีรัช ประเศรษโฐ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย  ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU) การส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนและพัฒนาต้นแบบจังหวัดราชบุรีเมืองแห่งสุขภาวะ
                              ด้าน ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ กล่าวว่า จังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนด้านสุขภาวะมายาวนานโดย สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดราชบุรี ขับเคลื่อนการสร้างสังคมสุขภาวะมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2552 และพัฒนางานมา อย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี พ. ศ. 2561 สสส.ได้ร่วมกับจังหวัดราชบุรีและคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาให้เกิดพื้นที่ต้นแบบ ที่เป็นรูปธรรมในการเสริมสร้างสุขภาวะอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งให้มีพื้นที่สาธิตการบรรลุเป้าหมาย 10 ปี ได้แก่การลดสูบบุหรี่ ลดการดื่มสุรา ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในหญิงตั้งครรภ์ เพิ่มการทานผักผลไม้ เพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย ลดภาวะอ้วนในเด็ก ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง และมีความสุข โดยมีพื้นที่นำร่อง 8 ตำบล 3 อำเภอได้แก่ อำเภอโพธารามอำเภอจอมบึงอำเภอวัดเพลงโดย เน้นการสานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชนประชาสังคมและชุมชนท้องถิ่นมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการสุขภาวะอย่างมีส่วนร่วมสร้างกลไกสนับสนุนส่งเสริมเครือข่ายให้เกิดการทํางาน ร่วมกันเสริมสร้างการพัฒนาต้นแบบชุมชนบูรณาการสุขภาวะเสริมสร้างศักยภาพบุคคลในการดำเนินงานจังหวัดบูรณาการสุขภาพและพัฒนาระบบฐานข้อมูลต่อยอดภูมิปัญญาทำงานของเครือข่ายให้เกิด วัตกรรม สู้การเป็นจังหวัดราชบุรีเมืองสุขภาวะอย่างยั่งยืนและสามารถเป็นต้นแบบสุขภาวะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับพื้นที่อื่นๆต่อไปในอนาคต

          สำหรับ นายวีรัช  ประเศรษโฐ กล่าวว่า สุขภาพดีและชีวิตดีหมายรวมถึงการมีสุขภาวะที่ดีมีสิ่งแวดล้อมสังคมและชุมชนที่ดีด้วย จังหวัดราชบุรีได้จัด ทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดราชบุรี 2561 ถึง 2564 เป็นเมืองเกษตรสีเขียวเศรษฐกิจมั่นคงสังคมมีความสุขภายใต้การบูรณาการทำงานร่วมกับ ทุกภาคส่วน ไม่พื้นที่ต้นแบบทั้ง 10 อำเภอ โดยเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุคคล ทั้งลดการสูบบุหรี่ลดการดื่มสุราเพื่อการออกกำลังกายเพิ่มการบริโภคผักผลไม้และอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และ การมีวินัยจราจรเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุส่งเสริมการทำเกษตรสีเขียววางระบบการกำจัดขยะในชุมชนรวมไปถึงการวางแผนครอบครัวหรือชุมชนและมีการพัฒนาศักยภาพผู้นำเครือข่ายน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต  
              พร้อมกันนี้     รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ กล่าวว่า คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐเอกชนประชาสังคมและชุมชนในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา ต้นแบบราชบุรีเมืองแห่งสุขภาวะทั้งในด้านวิชาการการวิจัยและการประเมินผลตลอดจนการเสริมสร้างศักยภาพบุคคลชุมชนเครือข่ายเเละดำเนินกิจกรรมอื่นๆทั้งนี้เชื่อว่าจังหวัดราชบุรีจะประสบความสำเร็จในการพัฒนา เป็นเมืองแห่งสุขภาวะต้นแบบและกลายเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มจำลองเหตุการณ์ประกอบสำนวน

อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน






วันที่ 15 ก.พ.61 พ.ต.ท.แมนสรวง กาญจนสะอาด รองผกก.สอบสวน สภ.โพธาราม พร้อมด้วย ร.ต.อ. อุเทน อำนวย ร้อยเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้ให้นายประมวล ทับตุ้ม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/ 11 หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม พร้อมกับพวกรวม 4 คน มาอุ้มตัวไปจากบ้านอ้างว่ามีหมายค้นโดยตลอดทางที่พาตัวขึ้นรถได้พยายามสอบถามถึงเครื่องสูบน้ำที่ทางผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าหายไป ว่าอยู่ที่ไหนจากนายประมวลพร้อมกับมีการทุบตีเป็นระยะ ซึ่งนายประมวลบอกว่าไม่ทราบไม่ได้เป็นคนเอาไปแต่อย่างใด ทำให้ถูกทำร้ายร่างกายในลักษณะใช้ผ้าคลุมหน้าและมัดมือไขว้หลังไว้                        
 และกลุ่มชายดังกล่าวยังบังคับให้นายประมวลตรวจปัสสาวะและรับสารภาพว่ามียาบ้า ทั้งที่เมื่อทำการตรวจปัสสาวะแล้วก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อไม่มีหลักฐานจากการตรวจปัสสาวะและอื่นๆ ทางกลุ่มของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวจึงนำตัวนายประมวลมาส่งริมถนนก่อนถึงทางเข้ากลับบ้าน นายประมวลจึงได้ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกไว้ที่ สภ.โพธาราม ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 ก.พ.61 ก่อนที่นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม จะพาไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งความคืบหน้าในวันนี้ (15 ก.พ.61) นายประมวลได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนก่อนที่จะเดินทางมาจำลองเหตุการณ์ในวันที่ถูกผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกมาอุ้มจากบ้านไปเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนทุกขั้นตอน โดยมีนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และญาติๆของนายประมวลมาร่วมดูการจำลองเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเรื่องให้ทาง ปปท.ดำเนินการฯ อีกส่วนหนึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกนายสมชาย จังพานิช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ชำแระ พร้อมพวกรวม 4 คน เข้ามาให้ปากคำ หากไม่มาก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี ร้องศูนย์ดำรงธรรมราชบุรีถูกตำรวจผู้ใหญ่บ้านอุ้มซ้อม



  อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็



          



 วันที่ 14  กุมภาพันธ์  2561   นายทวี  ไกรคุปต์  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้พานายประมวล ทับตุ้ม อายุ 38 ปี พร้อมด้วยนางปิ๋ว ทับตุ้ม อายุ 59 ปี มารดา และนางสาวกุสุมา นนทารัตน์ อายุ 35 ปี น้องสาว  อยู่บ้านเลขที่  73/ 11 หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี  เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งและผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรุมทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังเมื่อช่วงสายของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยศสารวัตรนายหนึ่ง และผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรวม 4 คน ได้นำตัวนายประมวล ทับตุ้ม อุ้มขึ้นนำพาขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนด์ดำตอนครึ่งหายตัวไป โดยก่อนที่จะนำตัวขึ้นรถชายทั้ง 4 คน ได้นำเสื้อมาคลุมใบหน้า และเอาผ้าขาวม้าผูกมือนายประมวลไขว้หลังอุ้มขึ้นรถหายไปต่อหน้านางปิ๋ว ซึ่งเป็นมารดาซึ่งอยู่ในอาการตกใจเป็นห่วงลูกชายที่ถูกอุ้มพาขึ้นรถโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง จึงได้บอกลูกสาวและญาติๆให้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ  ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็พบรถคันดังกล่าวได้ขับมาใกล้กับบ้าน และนำตัวลูกชายลงจากรถในสภาพเหมือนคนได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา
    นายประมวล ทับตุ้ม  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ทางนายสมชาย จังพานิชผู้ใหญ่บ้าน และนายสายยัณห์ กันเกรา  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรโจ ได้เข้าไปบ้านและลากตัวออกมาทุบตีนอกบ้าน โดยอ้างว่ามีหมายค้นจากโรงพัก  แต่ก็ไม่ได้นำออกมาให้ดู  แม้จะขอดูหมายค้นก็ไม่ยอมให้ดู เมื่อทำร้ายแล้วจึงพาขึ้นรถยนต์กระบะไปโดยใช้ผ้าคลุมหัว เอาผ้าขาวม้าผูกมือไขว้หลัง  ระหว่างอยู่บนรถได้ถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหนและมีการทุบตีและพยายามสอบถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหน  ตนก็บอกไม้รู้เรื่อง ก็พยายามทุบตีหลายครั้ง  จากนั้นก็พาลงรถแต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะถูกผ้าคลุมหัวไว้  จากนั้นได้ให้ปัสสาวะเพื่อนำตรวจหาสารเสพติด จึงบอกว่าถ้าหากปัสสาวะไม่ได้มีสีม่วงให้พากลับบ้าน  เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็ไม่พบสารเสพติดจึงพากลับบ้าน ขณะนั้นเกิดผ้าคลุมหัวหลุดจึงเห็นว่าเป็นที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์ อ.โพธาราม  จากนั้นมีการทำสำนวนอะไรไม่รู้  และได้นำยาบ้าใส่หลอดมาวางและถามตนเองว่าจะเอายาใช่มั๊ย และพยายามจะให้ตนเองถ่ายรูปกับยาบ้าด้วยแต่ตนไม่ยินยอม ตนพยายามเงยหน้าเพื่อมองการพิมเอกสารแต่ก็ถูกจับกดให้หน้าก้มต่ำจนมองไม่เห็น  หลังจากนั้นได้ให้ตนเซ็นเอกสารอะไรก็ไม่รู้ โดยไม่ยอมให้อ่าน แต่ให้เซ็นต์ลายมือในเอกสารอย่างเดียว พอเสร็จจึงพาขึ้นรถไปส่งที่บ้าน  ตามร่างกายก็ฟกช้ำดำเขียวหลายแห่ง  นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะโดนหนักยิ่งกว่านี้อีก  ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร และยังขู่อีกว่าอีก 2  หรือ 3 วันจะมาเอาเอ็งอีก พอกลับมาถึงบ้านได้ที่โรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา พร้อมกับไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ สภ.โพธาราม เพื่อเอาผิดกับคนที่ทำร้ายทั้ง 4 คน  วันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม
  ทั้งนี้นายภานุมาศ คงพันธ์  นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพร้อมหน่วยทหารได้มารับเรื่องสอบถามข้อมูลรายละเอียด  พร้อมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรม
  จากนั้นนายทวี  ไกรคุปต์  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้นำนายประมวล ทับตุ้ม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นภดล  รุ่งสาคร ผู้กำกับสภ.โพธาราม  พ.ต.ท.  แมนสรวง  กาญจนสะอาด รองผู้กำกับสอบสวน สภ.โพธาราม  ร.ต.อ. อุเทน อำนวย ร้อยเวร สภ.โพธาราม เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดในคดีดังกล่าว โดยทางผู้กำกับ สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้รายงานให้นายอำเภอโพธารามทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ที่มีผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีด้วย  นอกจากนี้พบว่าที่ป้อมที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์มีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ในวันเกิดเหตุ หากมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่าเป็นจริงก็ว่ากันไปตามกฎหมาย  ส่วนที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสารวัตรนายหนึ่งไปเกี่ยวข้องนั้น ตรวจสอบแล้วทราบว่าไม่ใช่อยู่ในท้องที่ สภ.โพธาราม แต่อยู่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเมื่อหลักฐาน พยานต่างๆระบุชัดเจนก็จะส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินการต่อไป

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์เปิดการแข่งขันกีฬาภายใน

 
โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์เปิดการแข่งขันกีฬาภายใน ให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางด้านกีฬาและส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคี





ที่บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ อำเภอจอมบึง  จังหวัดราชบุรี   นายชวลิตประทีป ปลัดอาวุโสอำเภอจอมบึง เป็นประธานเปิดการแข่งขัน กีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์  นายสรายุทธ  ลิบไพรวัลย์   ผู้อำนวยการโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์  ให้การต้อนรับ ทางด้าน นายฉัตรชัย อางนานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน พร้อมทั้งครูและนักเรียน โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ ได้ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ ซึ่งได้จัดเป็นประจำทุกปีเพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมทั้งการฝึกการเป็นผู้นำเป็นผู้ตามที่ดีมีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้แพ้ รู้ชนะ  รู้อภัยเพื่อให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะเป็นการเสริมสร้างความสามัคคี พร้อมกันนี้เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียนไปทำการแข่งขันในระดับภาคและประเทศ
 สำหรับการแข่งขัน กีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ แบ่งเป็นจำนวน 4 สี  สีชมพู  สีแดง  สีเหลืองและสีฟ้า    โดยทำการแข่งขันจำนวน  4  ชนิดกีฬา คือฟุตบอล 9 คน  วอลเลย์บอล   เซปักตะกร้อ   กรีฑา  และ  กีฬาพื้นบ้าน  เช่นชักกะเย่อกระโดดหมู่  วิ่งผลัดกระสอบ   นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดขบวนพาเหรดกองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางด้านกีฬาและส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคี มีสุขภาพพลานามัย ที่สมบูรณ์ พร้อมทั้งก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างครูนักเรียนและผู้ปกครอง




วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี ประชาชนแห่เที่ยวตลาดถนนเพลินเพลงเชื่อม 3 อำเภอ 2 จังหวัด

ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า พืชผัก ผลไม้






           บริเวณที่ว่าการอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี    นายชยาวุธ  จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สาขากาญจนบุรี นายบรรพต จันทรวงศ์ นายอำเภอวัดเพลง  นายณัฐภัทร์ เอมอ่อน นายอำเภอบางคนที นายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม  ร่วมกันเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ   ตามที่รัฐบาลมีโครงการตลาดประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการที่ไม่มีสถานที่ค้าขายให้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีแนวคิดให้อำเภอวัดเพลงฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าบริเวณ 3 แยกปากคลองประดู่บรรจบคลองแควอ้อม พื้นที่ติดต่อ  3อำเภอ  2 จังหวัด ได้แก่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี อ.อัมพวา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม  หลังจากในอดีตบรรดาพ่อค้า แม่ค้าจำนำพืชผัก ผลไม้ สินค้าการเกษตรจากในสวนออกมาขายกันทำให้มีรายได้ แต่ปัจจุบันได้ซบเซาและเงียบหายไปเหลือไว้แต่ชื่อ
      นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเปิดเผยว่า ราชบุรีมีแหล่งเชื่อมโยงท่องเที่ยวได้หลายแห่งในแต่ละอำเภอมีจุดดึงดูดที่น่าสนใจทั้งของโบราณ วัฒนธรรมต่างๆ เช่น แบบวิถีชีวิตชาวสวนแบบ 3 อำเภอในนามของราชบุรีต้องขอขอบคุณผู้ว่าสมุทรสงครามและนายอำเภอที่พร้อมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมาและหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดน้ำ 3 อำเภอให้ติดตลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อีกแห่งหนึ่ง
           นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม  เปิดเผยว่า มีตัวอย่างที่สมุทรสงครามโดยเฉพาะตลาดน้ำบางน้อย เมื่อประมาณปีที่แล้วยังเป็นตลาดน้ำที่คนผ่านไปแล้วแวะเฉยๆ แต่ปัจจุบันตลาดน้ำบางน้อยได้กลายเป็นจุดแวะเที่ยวไปแล้ว สำหรับตลาดน้ำ 3 อำเภอ 2 จังหวัดนี้มีความหลากหลายมากกว่าทุกที่ไม่ว่าจะเป็นอัมพวา หรือ ตลาดน้ำบางน้อย หรือตลาดท่าคา ของสมุทรสงคราม อยากฝากให้ทุกคนได้เข้มแข็งในการทำตลาดแห่งนี้ ที่สำคัญหลังจากมาเที่ยวอ.วัดเพลงแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้เดินบริเวณริมน้ำจากอ.วัดเพลงไปอำเภอบางคนทีประมาณ 2 กิโลเมตร บรรยากาศริมน้ำมีสิ่งสวยงามและธรรมชาติแบบเก่าโบราณ ซึ่งมีบ้านสมัยเก่า มีลำน้ำคลองแควอ้อมที่ใสสะอาด ตลอดทางจะมีร้านขายของจากพ่อค้า แม่ค้านำมาวางขายกันมากมายเชื่อมโยงมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในพื้นที่   
อย่างไรก็ตามการจัดตลาดน้ำ 3 อำเภอหรือตลาดเพลินเพลง จะเปิดตลาดริมน้ำในทุกบ่ายวันเสาร์จนถึงค่ำ  จะมีการประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว และประสานพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม นำสินค้าโอท็อป พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ จากสวนมาจำหน่ายทั้งทางเรือและทางบก เพื่อส่งเสริมสร้างรายได้ ซึ่งนอกจากจะได้มาเที่ยวตลาดน้ำ 3 อำเภอแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขับรถไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีก อาทิ ชมโบสต์คริสต์กว่า 100 ปี  สักการะศาลเจ้าพ่อหลักหิน สมัยทวารวดี ชมเพลงปรบไก่ในสมัยโบราณที่หาชมได้ยาก และแหล่งอารยะธรรมพื้นเมืองต่างๆ พร้อมทั้งมีอาหารคาวหวาน ขนมโบราณจากฝีมือเกษตรกรชาวสวนนำมาวางจำหน่ายมากมาย เช่น กล้วยม้วนอบ ขนมงาสลัด  และสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากฝีมือกลุ่มแม่บ้าน ผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น        



   สำหรับการเปิดงานในเย็นวันนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ   ได้เดินทางนำครอบครัวเข้ามาแวะพักผ่อนช่วงวันหยุด พร้อมกับเลือกซื้อสินค้า ผักผลไม้สด ๆ จากสวนในราคาถูกกันอย่างคึกคัก จนบริเวณถนนริมน้ำที่สามารถเดินเชื่อมติดต่อพื้นที่อีก  2 อำเภอนั้นช่วงระยะทางเดินไปตามริมน้ำกว่า 700 เมตร เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนต้องเดินเบียดกัน เพื่อเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติริมฝั่งคลองที่สวยงามในบรรยากาศยามเย็นของพื้นที่สองจังหวัด


         

ราชบุรี บูรณาการภาครัฐตรวจสอบหาสารตกค้างช่วงตรุษจีน



  หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนำเจ้าหน้าที่นำเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ประมง เกษตรและสุ่มเก็บตัวอย่างหาสารตกค้างที่มีในเนื้อสัตว์ พืชผัก ผลไม้ที่บริเวณตลาดศรีเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคช่วงเทศตรุษจีน
    ที่บริเวณตลาดกลางผักและผลไม้ ตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี  นางวีณา ศรีสรรพางค์   ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการตลาดศรีเมือง    ร่วมกับนายชาติชาย ไชยพิมล  หัวหน้าสำนักงานจังหวัด สัตวแพทย์หญิงวรรณี วัฒนพงศ์ชาติ ปศุสัตว์จังหวัด ดร.ชนินท์ แสงรุ่งเรือง ประมงจังหวัด นายพินิจ เจริญเร็ว เกษตรจังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์  ซึ่งเป็นตลาดกลางค้าผักค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกที่มีพ่อค้า แม่ค้าจะมาเลือกซื้อพืชผัก ผลไม้ สินค้าเกษตร สินค้าแปรรูปต่างๆไปจำหน่ายยังภาคใต้และพื้นที่ทั่วประเทศ  ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้บูรณาการดูและเรื่องอาหารปลอดภัย รวมถึงเรื่องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่จะมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้าที่มีปริมาณที่ถูกต้อง รายคาเหมาะสม  โดยนายชยาวุธ  จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนำส่วนราชการและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตลาดสด และเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ สัตว์น้ำ พืชผัก  นำส่งตรวจวิเคราะห์หาสารตกค้างที่เป็นอันตราย ซึ่งจะดำเนินการรูปแบบเดียวกันกับในพื้นที่ทุกอำเภอช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในการเลือกสินค้าที่ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง ปัจจุบันมีร้านค้าทั้งในตลาดสด ตลาดนัด ที่ได้รับป้ายรับรองสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ปลอดภัย (เขียงสะอาด) จังหวัดราชบุรี มีจำนวนทั้งสิ้น 52 ร้านในพื้นที่รวม 10 อำเภอของจังหวัดราชบุรี 


    สัตวแพทย์หญิงวรรณี วัฒนพงศ์ชาติ ปศุสัตว์จังหวัดกล่าวถึงกิจกรรมว่า ได้บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เป็นการตอกย้ำว่าราชบุรีเป็นแหล่งผลิตอาหารครัวไทยสู่ครัวโลกที่มีความเป็นมาตรฐาน มีคุณภาพปลอดภัย ยืนยันจากหน่วยงานราชการที่เข้ามาตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตตลาดศรีเมืองก็จะเป็นแหล่งศึกษาดูงานของหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศที่จะมาดูเรื่องกระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำที่ปลอดภัย
     นางวีณา ศรีสรรพางค์   ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการตลาดศรีเมือง เปิดเผยว่า ช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ ทางตลาดศรีเมืองจะได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค วันนี้ได้มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมจัดกิจกรรมพร้อมเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ พืชผัก ผลไม้ นำไปตรวจสอบหาสารตกค้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยแต่ละร้านจะผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังมีป้ายบอกแสดงราคาติดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าที่ดีสะอาด ปลอดภัยและมีคุณภาพด้วย

ราชบุรี - ตําบลเจ็ดเสมียนเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยว

เปิดหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนโบราณบริเวณตลาด 119 ปี เชิงอนุรักษ์ ที่ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรีบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ นิเวศน์ และการอนุรักษ์ ชูอาหารเลิศรสและของดีในท้องถิ่นที่มีมายาวนาน






          ที่บริเวณลานกิจกรรมริมน้ำ ตลาดเจ็ดเสมียน 119 ปี ต.เจ็ดเสมียน  อ.โพธาราม  จ.ราชบุรี   นายไพบูลย์ บูรณสันติ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายสุทธิเดช ริมธีรกุล นายกเทศมนตรีตำบลเจ็ดเสมียน พร้อมด้วยผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนชาวเจ็ดเสมียน ได้ร่วมกันจัดพิธีเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลเจ็ดเสมียนตามโครงการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ นิเวศน์และอนุรักษ์ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ โดยตำบลเจ็ดเสมียนมีประวัติความเป็นมาสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีความรักความผูกพันในเรื่องการรักชาติรักแผ่นดิน สมัยนั้นชาวบ้านเจ็ดเสมียนได้อาสาสมัครไปเป็นทหารออกศึกเพื่อกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจำนวน 7 คน   ซึ่งเป็นเสมียนที่มีความรู้ความสามารถในสมัยนั้น นอกจากนี้พื้นที่เจ็ดเสมียนยังมีการใช้ทุนชุมชนในการต่อยอดพัฒนาในด้านต่างๆ มาบูรณการระหว่าง 5 ส่วน ในรูปแบบประชารัฐ คือ ท้องที่ ท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาและภาคประชาชน  โดยปีงบประมาณ 2561 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโพธาราม ได้ส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวขึ้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นกลยุทธการพัฒนา
            สำหรับการจัดงานท่องเที่ยวชุมชนตำบลเจ็ดเสมียนครั้งนี้ได้ใช้ชื่อว่า เที่ยวท้องถิ่น กินอิ่มนอนอุ่น ตำบลเจ็ดเสมียน   มีกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การออกร้านตลาดประชารัฐ พบกับสินค้าโอท็อปชูอัตลักษณ์วิถีชุมชน  ได้แก่ การจำหน่ายไชโป๊หวานตำนานต้นตำรับของเมืองไทย ผลผลิตการเกษตรขากศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน รวมถึงงานหัตถกรรมในท้องถิ่นที่เป็นของดี  เช่นการร้อยมาลัยจากกระดาษทิชชู การทำสบู่ การทำไข่เค็มสมุนไพร  และกิจกรรมปั่นจักรยาน ปั่นตามรอยธรรม ก้าวตามรอยพ่อ  เสน่ห์ปลายจวัก นิทรรศการภาพวาดจากศิลปินลุ่มน้ำแม่กลอง ซึ่งบรรยากาศค่ำคืนของการเปิดงานเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแต่งกายลักษณะแบบย้อนยุคสมัยโบราณสวมเสื้อลายผ้าไทย นุ่งผ้าซิ่น เข้าเที่ยวชมงานและยังได้เลือกชิมอาหารคาว หวาน ขนมโบราณ เช่น  ผัดหมี่ ทอดมันข้าวโพด ถั่วแปบ กล้วยตากทอด ผลิตภัณฑ์จากหัวไชโป๊ ที่มีการแปรรูปเป็นกับข้าวหลายอย่าง กินกับข้าวต้มใส่ใบเตยที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเบเกอร์รี่ผักกาดเค็มปั้นทำเป็นก้อนกลม ขนมเบื้องยวนไส้ไชโป๊ ล้วนแต่มีรสชาติที่อร่อยเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวและนักปั่นจักรยานที่ได้เดินชิมอาหารและขนมโบราณฟรีตลอดงาน  นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้นำดอกไม้กราบสักการะขอพร พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา ซึ่งเป็นพระพุธรูปศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี ตำรวจมอบประกาศนียบัตรเชิดชูคนดี



 ตำรวจดำเนินสะดวกมอบประกาศนียบัตรให้ลุงพิการที่พายเรือตลาดน้ำเพื่อเชิดชูการกระทำความดีหลังเก็บเงินนักท่องเที่ยวได้เกือบแสนคืนให้เจ้าของ

 วันที่ 8 กพ. 61  พ.ต.อ.สุทธิพงษ์   พงศ์ประภาอำไพ ผู้กำกับ สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี  ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับนายบุ้นเล้ง   แซ่เตียว  อายุ 63 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 173 / 7 หมู่ที่ 7 ต.ดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี   ซึ่งได้เป็นผู้เก็บกระเป๋าสตางค์ของชาวต่างชาติได้เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายในมีเงินสดเป็นธนบัตรไทย และเงินดอลล่าร์ รวมกว่า 66,000 บาท จึงได้นำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามค้นหาเจ้าของ ทราบต่อมาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย ติดต่อกลับมาและให้ไกด์มารับกระเป๋าเงินคืนไปแล้ว
     โดยนายบุ้นเล้ง แซ่เตียว ได้เปิดเผยว่า  ตนเองมีอาชีพรับจ้างพายเรือให้นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชนในคลองดำเนินสะดวก  มานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยวันที่เกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิง 2 คน  ผู้ชาย 2 คน ว่าจ้างให้พายเรือไปเที่ยวรอบตลาดน้ำดำเนินสะดวก  เมื่อเที่ยวเสร็จนักท่องเที่ยวได้ขึ้นจากเรือไปหมดแล้วก็พบกระเป๋าสตางตกอยู่ใต้เก้าอี้ไม้ที่นั่งในเรือ  ภายในกระเป๋ามีบัตรประจำตัวประชาชนระบุเป็นชาวแคลิฟอร์เนียร์ ชื่อ มิสเตอร์แซนดี้   จึงได้มาตามหาแต่นักท่องเที่ยวได้เดินทางกลับและตลาดน้ำวายหมดแล้ว  จึงไม่รู้จะทำยังไง จึงนำเก็บกลับบ้านโดยไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ต่อมาได้ไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้านให้เป็นพยานนำไปแจ้งที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋า  โดยหลังได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเปิดนับดูพบว่ามีเงินเป็นธนบัตรไทยเป็นปึกตรวจนับแล้วรวมกว่า  5 แสนบาท มีทั้งเงินดอลล่าร์รวมอยู่ด้วย   จึงมอบให้ผู้กำกับสภ.ดำเนินสะดวกเก็บไว้พร้อมลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเพื่อสืบหาเจ้าของ   ซึ่งตนนั้นอยากให้เจ้าของกระเป๋าได้เงินคืน  แต่หากเป็นตัวเราเกิดทำกระเป๋าหายจะทำอย่างไร จึงอยากให้ได้คืนครบทุกบาททุกสตางค์  ที่ผ่านมาก็เคยนำเงินส่งคืนเจ้าของไปแล้ว โดยพบกระเป๋าเงินของนักท่องเที่ยวในเรือเหมือนกัน แต่ก็คืนให้ไปแล้ว  อยากให้มาเที่ยวที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกแล้วเกิดความประทับใจในเมืองไทย
     ด้าน พ.ต.อ.สุทธิพงษ์  พงศ์ประภาอำไพ ผู้กำกับ สภ.ดำเนินสะดวก  เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง จึงให้ร้อยเวรประสานทางบริษัททัวร์ เพื่อประสานติดตามหาตัวนักท่องเที่ยวอยู่นานจนพบใช้เวลากว่า    1 วันจึงได้คำตอบกลับมา  ทางไกด์จึงติดต่อเพื่อขอประสานรับเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว  เป็นชาวแคลิฟอร์เนียร์ ซึ่งได้เดินทางไปเที่ยวต่อที่จังหวัดภูเก็ตและได้ประสานให้ไกด์นำเที่ยวเดินทางกลับมารับกระเป๋าที่สถานีตำรวจแล้ว วันนี้จึงได้นัดคุณลุงมามอบประกาศนียบัตรเพื่อเชิดชูเกียรติให้ เพื่อให้ชาวต่างชาติและคนไทยได้รับรู้ และเห็นว่าคนดำเนินสะดวกยังมีคนดีอยู่ในสังคมไทย ไม่เห็นแก่เงิน มีตัวอย่างที่ดีอย่างลุงบุ้นเล้งซึ่งมีอาชีพพายเรือจะมีรายได้ไม่เกิน 500 บาท ต้องพายเรือเลี้ยงครอบครัวด้วยหยาดเหงื่อ ไม่คิดอยากได้ของคนอื่น  ผมจึงได้นำเงินตัวเองที่มีอยู่เล็กน้อย มามอบให้ลุงเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำความดี เป็นการส่งเสริมคนดีให้ทำความดีต่อไป
อย่างไรก็ตามบรรยากาศการมอบประกาศนียบัตรที่ตู้ยามริมถนนสายดำเนินสะดวก ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก บางคนได้สอบถามไกด์ที่นำเที่ยวว่ามีเหตุการณ์อะไรเห็นมีตำรวจพูดผ่านไมโครโฟนพร้อมกับมีการมอบสิ่งของให้แก่กัน นักท่องเที่ยวบางคนได้ใช้กล้องบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกในการทำความดีของคุณลุงด้วย

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี รณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว




รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดโครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว “ห้องน้ำสะอาด สุขใจ ไปเที่ยวไหนก็ WC OK”

  วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บริเวณท่าเรือยุวันดา ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว “ห้องน้ำสะอาด สุขใจ ไปเที่ยวไหนก็ WC OK” โดยมีนางสาวแสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี กล่าวรายงาน โดยมี นักท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ และนักเรียนโรงเรียนวันโชติทายการาม มาร่วมโครงการในครั้งนี้
 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทุกจังหวัดจัดกิจกรรมรณรงค์ห้องน้ำสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว “ห้องน้ำสะอาด สุขใจ ไปเที่ยวไหนก็ WC OK” โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้เกิดความตื่นตัวในการดูแลและพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวให้ สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐานโดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้เป็นผู้แทนจากส่วนราชการและผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวบริเวณตลาดน้ำดำเนินสะดวก ซึ่งได้เลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในระดับโลก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
ตามเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ ของกรมอนามัยต้องมี ความสะอาด ความพอเพียง และมีความปลอดภัย  ในส่วนของกรมการท่องเที่ยว ต้องมีป้ายสัญลักษณ์ห้องน้ำไม่ต่ำกว่า 2 ภาษา มีประชาสัมพันธ์เรื่องการรักษาความสะอาดประหยัดพลังงาน มีการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดหรือบริเวณใกล้เคียง โดยมีพื้นที่เป้าหมายในการเข้าร่วมโครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว คือ  ศาลากลาง ,ที่ว่าการอำเภอ ,ห้างสรรพสินค้า ,สถานีบริการน้ำมัน ,โรงแรมที่พัก รีสอร์ท ,ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ,วัดและ ศาสนสถาน ,แหล่งท่องเที่ยว ,สถานีขนส่ง และสนามกีฬา

วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

ราชบุรี ใช้โครงการ DARE ฝึกเด็กไม่ยุ่งเกี่ยวสิ่งเสพติด



ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรีใช้โครงการ D.A.R.E นำเด็กนักเรียนเข้าเยี่ยมภายในสถานีตำรวจเพื่อดูตัวอย่างการทำงานและการกระทำผิดกฎหมายของประชาชนและสิ่งเสพติด 

                   ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี  พ.ต.อ. อภิชาต พุทธบุญ ผู้กำกับ สภ.เมืองราชบุรี ร.ต.ท.รัฐภูมิ  โพธิ์ศรีดา รองสารวัตรสืบสวนและในฐานะครูตำรวจ D.A.R.E ของสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี พร้อมด้วยอาจารย์ ดวงกมล นักจะเข้ อาจารย์โรงเรียนเทศบาลหลักเมือง ได้นำเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 รวม 28 คน จากโครงการครู D.A.R.E มาศึกษาเรียนรู้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง   ซึ่งมีเด็กๆทั้งชายหญิงได้ให้ความสนใจสอบถามความเป็นมาของแต่ละหน่วยงานด้วยความสนใจ
            ร.ต.ท.รัฐภูมิ  โพธิ์ศรีดา รองสารวัตรสืบสวนและในฐานะครูตำรวจ D.A.R.E  หรือ  DRUG ABUSE RESISTANCE EDUCATION  หรือ โครงการการศึกษาเพื่อการต่อต้านการใช้ยาสเสพติดในเด็กนักเรียน เปิดเผยว่า โครงการก่อตั้งประมาณปี  พ.ศ. 2542 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสมัยนั้น ได้นำโครงการการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งแต่นักเรียนจนถึงเยาวชนเข้ามาสู่ประเทศไทย เป็นโครงการของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนำครูตำรวจแดร์เข้าฝึกอบรม และนำมาถ่ายทอดจนถึงขณะนี้เข้ามาปีที่ 16 แล้ว ใช้ครูตำรวจอบรมหลักสูตรนี้ทั้งหมด 13 บทเรียน นำมาสอนในนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5-6 ทั่วประเทศไทย ขณะนี้มีครูตำรวจแดร์ทั้งหมด 10,000 คน  ในหนึ่งภาคเรียนจะเข้าสอนเด็กนักเรียนชั้นดังกล่าวคนละ 2 ห้องเรียน เฉลี่ยนักเรียนห้องละ 30-40 คน ทั่วประเทศเทอมหนึ่งประมาณ 20,000 ห้อง ปีหนึ่งประมาณ 40,000 ห้อง เมื่อรวมกับนักเรียนแล้วประมาณปีละ 3-4 แสนคน ขณะนี้ยอดสะสมของนักเรียนประมาณกว่า 1.9 ล้านคน
           โครงการดังกล่าวของตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีมีครูตำรวจแดร์ อำเภอเมืองทั้งหมด 10 นาย     อบรมนักเรียนรวมกว่า 1,950  คน  ได้ทั้งหมด  16 โรงเรียน สิ่งที่นักเรียนได้รับจากโครงการการศึกษาเพื่อการต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน  ซึ่งเด็กๆจะได้เรียนรู้ทั้งหมด 13 บทเรียน เริ่มตั้งแต่ บุหรี่ กัญชา เหล้า สารละเหย ยาบ้า  รวมทั้งสิ่งเสพติดต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศ เด็กได้เรียนรู้การปฏิเสธอันดับแรกคือ โทษและพิษภัย เมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วจะเกิดโทษอย่างไร และให้รู้จักการปฏิเสธด้วย สมมุติมีคนมาชักชวนให้เด็กสูบบุหรี่ ทางครูจะสอนนักเรียนว่า ไม่หรอกจะฝึกให้ใช้คำปฏิเสธว่าไม่เพราะบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดีมีสารพิษมากมายมากกว่า 7,000 ชนิด หรือ ชวนดื่มสุรา ดื่มเบียร์ ของเด็กนักเรียนที่ขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หากได้เรียนก็จะช่วยเสริมทักษะภูมิคุ้มกันตรงนี้แล้วก็จะรู้จักปฏิเสธเป็น
              พ.ต.อ. อภิชาต พุทธบุญ ผู้กำกับ สภ.เมืองราชบุรี  กล่าวว่า ส่วนเมืองราชบุรีนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และกองพลพัฒนาที่ 1 มีนโยบายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ในชุดพิเศษใช้ชุดเหยี่ยวดำออกปฏิบัติช่วง 22.00- 05.00น.ทุกวัน เป็นส่วนกำลังที่แยกออกมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในชุดไล่ล่าเด็กแว้น เด็กซิ่ง  ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน มีมาตรการเมื่อมีการจับกุมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ ก็จะมีหลักการคือ ให้แก้ไข  หากยอมถอดท่อไอเสียที่ดัดแปลงให้เกิดเสียงดังและยอมมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินการปรับตามโทษที่น้อยลง ประมาณ 300-500 บาท  แต่ถ้าไม่ยอมสำนึกผิด โดยไม่ยอมแก้ไขปรับปรุง ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการใช้มาตรการปรับทุกข้อหา มีอัตราโทษสูงสุด
               อย่างไรก็ตามทางครูตำรวจแดร์ได้พาเด็กๆเดินชมรถแต่งซิ่ง พร้อมอธิบายชิ้นส่วนอุปกรณ์ดัดแปลงรถจักรยานยนต์ให้แก่เด็กๆที่พยายามสอบถามว่ามีชิ้นไหนบ้างที่ผิดกฎหมาย  เช่น ท่อไอเสียที่ไปซื้อมาปรับแต่งให้เสียงดังจะมีราคาท่อละ 1,000 บาท  น็อตหัวสีทองเอาไว้แต่งซิ่งตัวละ 300 บาท  นอกจานี้ยังมีอุปกรณ์ต่างๆอีกหลายชนิด เช่น ล้อแม็ก คิ้วล้อรถ  รถคันหนึ่งมีอุปกรณ์ตกแต่งหลายหมื่นบาทต่อคัน และมีการยกตัวอย่างการทำงานของพ่อ แม่ ที่ทำงานได้ค่าแรงวันละ 300 บาท แต่ต้องนำเงินมาประกันตัวลูกที่มาถูกจับดำเนินคดีเกี่ยวกับเปลี่ยนแปลงสภาพรถในจุดต่างๆ ซึ่งมีโทษต่ำสุด 300 บาท ถึงสูงสุด 2,000 บาท ขณะที่พ่อแม่ทำงานได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ยังติดลบต้องหาเงินไปประกันลูกอีก 1,700 บาท  เป็นตัวอย่างให้เด็กมองเห็นภาพที่ชัดเจนในการกระทำผิดกฎหมาย จึงถือเป็นโครงการที่ทำให้นักเรียนได้รู้โทษและพิษภัยของยาเสพติดทุกชนิด ที่มีผลกระทบต่อร่างกาย ได้เรียนรู้วิธีปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนให้ทดลอง และยังได้รู้จักการคบเพื่อนที่ดีนำไปสู่การเป็นเยาวชนของชาติที่มีภูมิคุ้มกันที่ดีในอนาคต