บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566

กาชาดราชบุรีนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

กาชาดราชบุรีนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือครอบครัวป่วยติดเตียงที่ อ.ดำเนินสะดวก
ในพื้น ที่ ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี และในฐานะประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดราชบุรี เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวยากไร้พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยเดินทางไปพร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พบว่าครอบครัวดังกล่าวอาศัยในบ้านหลังเล็กที่สร้างด้วยไม้ปลูกอยู่ริมคลอง สภาพบ้านก็เริ่มพุพัง โดยมีนางสมร วงษ์วิไล อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของบ้านนอนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และเตียงข้างกันเป็นสามีคือนายเทิดศักดิ์ จีนโก๊ว อายุ 55 ปี มีอาการแขนขาอ่อนแรงเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ และมีแผลติดเชื้อที่ขาทั้งสองข้าง ทำให้ขาบวมเดินไม่ได้ ทั้งคู่มีลูกสาวอายุ 10 ปีอาศัยอยู่ด้วย แต่มีอาการสมาธิสั้น
ช่วงนี้ไม่ได้ไปเรียนเนื่องจากไม่มีใครไปส่งและไม่มีเงินส่งเสียโดยนางพรศรี ตรงศิริ ได้มอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ โดยมีส่วนราชการจากจังหวัดและในพื้นที่ร่วมนำสิ่งของเครื่องใช้ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มร่วมมอบในครั้งนี้ พร้อมให้ส่วนราชการในพื้นที่ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี เพื่อจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมบ้านและห้องน้ำให้มีแข็งแรงและปลอดภัย อีกทั้งการดูแลด้านสุขภาพอนามัยจะมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่มาดูแลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องจากการสอบถาม นางสมร บอกว่า ครอบครัวมีอาชีพขายของตามตลาดนัด ต่อมาสามีเกิดวูบและล้มป่วยลง ซึ่งหมอแจ้งว่าเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้แขนขาอ่อนแรง แต่ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้างนิดหน่อย แต่ต่อมาเมื่อ 2 เดือนก่อน ตนก็มีอาการเหมือนกับสามี คือมีอาการวูบและล้ม ไปโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าตนเป็นเหมือนสามี คือเส้นเลือดในสมองตีบร่างกายขยับเองไม่ได้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ตนและสามีนอนป่วยติดเพียงทั้งคู่ ส่วนลูกสาวไม่ได้ให้ไปโรงเรียน เนื่องจากไม่มีคนไปส่งและไม่มีเงินจะส่งเสีย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใจบุญอยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถติดต่อไปที่ 065-2435745 หรือร่วมบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านแพ้ว เลขที่บัญชี 287-0-28832-7 ชื่อบัญชี น.ส.สมร วงษ์ไล

ราชบุรี - โจรย่องเงียบงัดโอ่งขโมยเงินเผาผีหลวงพ่อเก็บมา 23 ป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้าตรวจสอบที่วัดพระศรีอารย์ หลังโจรย่องเงียบงัดโอ่งขโมยเงินเผาผีหลวงพ่อเก็บมา 23 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม พร้อมด้วย พ.ต.ท. ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ. รัฐนินทร์ เกษมสิทธิชัยกุล ร้อยเวร สภ.โพธาราม พร้อมชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบภายในวัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังได้รับแจ้งจากกรรมการวัดว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยเงินในโอ่งของวัดหายไปจำนวนมาก ที่เกิดเหตุพบพระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัด พร้อมด้วยพระลูกวัด กรรมการวัดและลูกศิษย์วัดหลายคน อยู่ที่บริเวณศาลาหลวงปู่ขันธ์ ซึ่งมีโอ่งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ห่างกันจำนวน 3 ใบ ซึ่งที่ 1 สีแดง ใบที่2 สีทอง และ ใบที่ 3 สีน้ำเงิน มีร่องรอยการใช้อุปกรณ์งัดบริเวณปากโอ่งที่โบกปูนทับปิดเอาไว้ ด้านข้างจะมีช่องไว้สำหรับให้หยอดเงินลงไปในโอ่ง แต่ละใบก็จะเขียนข้อความที่เป็นมงคลติดไว้ เช่น บุญนำทำให้รวย กินดี อยู่ดี มั่งมี ศรีสุข เสริมบารมี ติดไว้ มีร่องรอยของการถูกงัด จนปูนที่ฝาโอ่งแตกร้าวออกเป็นชิ้น ๆ
นายทวิช พรมชาติ ลูกศิษย์วัดได้พาไปดูที่เกิดเหตุพร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า หลวงพ่อได้สังเกตเห็นว่าที่บนฝาโอ่งมีร่องรอยถูกกะเทาะปูนออกมา จึงเรียกให้ตนเองมาดูและลองผลักฝาโอ่งออกพบว่าเปิดได้ จึงได้ก้มไปดูที่ก้นโอ่งด้านล่าง พบว่า เงินหายไปจำนวนมาก ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่กี่บาท ตอนใส่จะมีผ้ารองวางไว้ด้านล่าง ส่วนเงินอยู่บนผ้ารอง แต่คงเหลือเงินอยู่ประมาณ 2,000 บาทเศษ ไม่รู้ว่าเงินในโอ่งนี้มีอยู่เท่าไหร่เพราะโอ่งนี้มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ที่ไม่ได้เปิดฝาโอ่งเลย มีโอ่งอยู่ทั้งหมด 3 ใบ หลวงพ่อบอกว่าก่อนตายจะเอาเงินนี้ไว้ทำศพ ส่วนโอ่งใบอื่น ๆ ก็ถูกงัดเหลือเงินเล็กน้อยเป็นเหรียญและแบ๊งค์ 20 ไม่กี่ใบ คาดว่าน่าจะหายช่วงตอนกลางคืน เพราะกลางวันจะมีกิจกรรมคนจะเยอะ
ด้านพระครูวิทิต พัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ เปิดเผยว่า เงินนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ทำศพ เป็นเงินเผาผี โดยเก็บไว้ในโอ่งเตรียมตัวก่อนตายซึ่งได้เก็บไว้ประมาณ 23 ปีแล้ว ตั้งแต่อาพาธป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเป็นอัมพาตต้องอยู่บนรถเข็นมานานแล้ว และได้สั่งเสียลูกศิษย์ไว้ พอญาติโยมให้มาก็จะนำเงินมาใส่โอ่งไว้ สั่งเสียว่าถ้าตายแล้วก็ให้ทุบโอ่งทั้ง 3 ใบนำเงินมาจัดงานเผาศพให้ด้วย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัด พบว่าเซิร์ฟเวอร์เสียไม่สามารถเปิดดูภาพได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดกล้อง เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดในการสืบสวนหาเบาะแสตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ราชบุรี ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกที่นำไปทำสแลงหวิดวอดทั้งหลังเจ้าหน้าที่ต้องใช้โฟมฉีดจึงสามารถดับไฟ
ที่โรงงานผลิตคัดแยกน้ำมันและเม็ดพลาสติกเพื่อนำเอาเม็ดพลาสติกไปทำเป็นสแลน ตั้งอยู่ ม.1 ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ร.ต.อ.พลาญชัย ชัยชนะ พนักงานสอบสวนสภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงานไทยเกษตร เป็น อยู่หลังปั้มนำมัน ปตท.บางลาน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลดอนทราย เทศบาลเจ็ดเสมียน เทศบาลโพธารามและเทศบาลบ้านสิงห์ พร้อมหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยกู้ภัยสว่างราชบุรี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังโรงงาน พบกลุ่มควันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงลุยเข้าไปตรวจสอบด้านในอาคารพบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ลักษณะเป็นเตาหลอม และเพลิงได้ลุกลามเข้าพนังของโรงงานที่ทำจากแผ่นแมทเทินชีส จึงใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงด้านในไฟจึงสงบ แต่ด้านนอกไฟยังคงลุกอยู่ซึ่งเป็นที่ตั้งเตาหลอม และภายในเตาหลอมมีน้ำมันที่สกัดออกจากพวกเปลือกสายไฟฟ้า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงต้องใช้โฟมฉีดจึงสามารถดับไฟได้โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อย่างไรก็ดีในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี จะเขามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไมสามารถประเมินราคาความเสียหายได้ นายบุริพัฒน์ เภาศรี หัวหน้าบรรเทา13-01กู้ภัยสว่างราชบุรี กล่าวว่ามันเป็นโรงงานที่หลอมยางเปลืกสายไฟที่ไม่ใช้แล้วเพื่อคัดแยกเอาน้ำมันกับพลาสติกออกจากกัน ส่วนเพลิงเราไม่รู้ว่าเกิดจากจุดไหนแต่ที่สอบถามมาว่าต้นเพลิงลุกจากด้านนอกตัวเตาหลอมเข้ามาซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลต่างๆได้ทำการควบคุมเพลิงสงบแล้วคงรอเข้าหน้าที่ไฟฟ้าเข้ามาทำการตัดไฟ ส่วนสาเหตุที่ทำการดับไฟได้ยากเนื่องจากมันเป็นเตาหลอมยางรถยนต์ หรือเปลือกสายไฟ มันจะมีน้ำมันอยู่ในตัวทำให้การดับด้วยน้ำเปล่ามันยากเลยต้องใช้โฟมหมดไปประมาณ3ถังจึงสามารถเอาอยู่
นายมนตรี สายสวาท เจ้าหน้าดำเพลิงเทศบาลดอนทรายกล่าวว่าตนเข้ามาเป็นทีมแรก เข้ามาก็เห็นไฟกำลังลุกที่แผงพนังของโรงงานที่เตานี่ก็ลุกหมดไฟกำลังจะลามมาอีกด้าน โชดดีที่รถดับเพลิงเรามาก่อนตนไม่แน่ใจว่าไฟมันลุกมาจากจุดไหนตอนที่มามันลุกเต็มพื้นที่ไปหมดแล้วส่วนที่ไฟลุกไหม้ที่เตานั้นตนไม่ทราบว่าเป็นเตาอะไร ในส่วนการทำงานนั้นไม่ค่อยยากลำบากเท่าไหร่ แต่จะกลัวเรื่องไฟฟ้าอย่างเดียวเพราะไฟฟ้ายังไม่ได้ตัดส่วนการดับไฟครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ30นาที

ราชบุรี น้องชายสุดโหดรัวยิงพี่ชายดับกลางตลาดนัด ก่อนไปยิงพี่สะใภ้ที่บ้านดับ2ศพ

น้องชายสุดโหดรัวยิงพี่ชายดับกลางตลาดนัด ก่อนไปยิงพี่สะใภ้ที่บ้านดับ2ศพสาเหตุซึ่งเป็นปัญหาในครอบครัว
ที่บริเวณตลาดนัดวัดราชสิงขร หมู่ที่ 2 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี ร.ต.ท.กฤตณัฐ รัตนกุสุมภ์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงจน มีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ปานศรี รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานราชบุรี แพทย์เวรรพ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ในที่เกิดเหตุกลางนัด พบผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย นอนจมกองเลือด อยู่ภายในตลาดนัด ทราบชื่อต่อมา คือนายสำรวย ตำบลเกาะพลับพลา สภาพศพ ถูกยิง เข้าที่ บริเวณหน้าอก จำนวนหลายนัด นอกจากนี้ ยังพบ ปลอกกระสุนปืน ขนาด จุด 38 จำนวน 10 นัด เจ้าหน้าที่ จึงเก็บ ไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้ง ว่ามี ผู้เสียชีวิต อีก 1 ราย อยู่ภายในบ้าน ใกล้กับกับศพแรก เจ้าหน้าที่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ ผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นาง ประทับ มีร่องรอยถูกอาวุธปืน ยิงเข้าที่ใบหน้าและลำตัว ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 38 จำนวนหลายปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บ ไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ที่ก่อเหตุ นายนพพร ถูก รวบตัวได้หลังจากก่อเหตุแล้ว พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ซึ่งยังมีกระสุนปืนเหลืออยู่ 26 นัด จากการสอบถามบุตรสาวของ นายสำรวยคุ้มจิต เบื้องต้น ทราบว่า คนที่ก่อเหตุ เป็นน้องชายคนสุดท้อง ของพ่อ ส่วนสาเหตุ น่าจะมา จากเรื่อง ที่มีปัญหาในครอบครัว เนื่องจาก เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา พี่ชายคนรอง ได้ไปทะเลาะ กับมือปืน จนถึงขั้น ทำร้ายร่างกาย และ พี่ชาย ถูกจับติดคุก จึงทำให้ มือปืน โกรธแค้น เนื่องจากคิดว่า พ่อของตนเอง กับพี่ชายคนรอง รวมหัวกัน ยุยงให้ไปทำร้ายตนเอง จึงได้มาก่อเหตุ ยิงพ่อตัวเอง และมายิง พี่สะใภ้ ซึ่งเป็น ภรรยา ของพี่ชายคนรอง ที่ติดคุกอยู่ เสียชีวิตไปด้วย