บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวที่สวนผึ้ง

 นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวที่อำเภอสวนผึ้งทำการจราจรติดขัดยาวกว่า 20 กม.


                เนื่องจากในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  ซึ่งจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน โดยเริ่มตั้งแต่  31 ธ.ค. 59  - 3 ม.ค.60 ประกอบกับในช่วงนี้หลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น  โดยเฉพาะที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีอุณหภูมิอยู่ที่ 13-15 องศา  ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  ต่างก็พากันเดินทางมาเที่ยว เพื่อสัมผัสลมหนาว และสัมผัสกับธรรมชาติในบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนม่า  ส่งผลให้การจราจรในฝั่งขาเข้าตัวอำเภอสวนผึ้งนั้นติดขัดเป็นระยะทางยาวกว่า 20 กิโลเมตร  พ.ต.อ.ณัฐธพงษ์   ทองนาค  ผกก.สภ.สวนผึ้ง  ได้ทำการเปิดเส้นทางการจราจรเพิ่มในบริเวณด้านข้า เข้าอำเภอสวนผึ้ง   ตั้งแต่  อบต.ท่าเคย  จนถึงเทศบาลตำบล  สวนผึ้ง  เพื่อให้รถได้ทยอยไปได้  แต่บางช่วงก็ติดขัดนานเพราะเป็นแหล่งชุมชนที่มีพ่อค้าแม่ค้านำผลิตภัณฑ์รวมทั้งสินค้าทางการเกษตรมาตั้งวางขาย  นักท่องเที่ยวได้จอดแวะซื้อเพื่อนำไปรับประทานและนำไปเป็นของฝาก  ทางสภ.สวนผึ้ง  จึงได้ร่วมกับทางสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน   (อส.)พร้อมทั้ง  อปพร. ต้องคอยดูแลเรื่องการจราจรตลอดเส้นทางที่ติดขัดเป็นระยะทางยาวกว่า 20 กิโลเมตรเมตร ตลอดเส้นทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติและสัมผัสลมหนาวในช่วงค่ำคืนนี้   ส่วนเรื่องของที่พักในรีสอร์ท หรือบ้านพักต่างอากาศนั้นขณะนี้เต็มทุกแห่งนี้ และมีการจองไปจนถึงเดือนมีนาคม 2560  แต่จะมีเรื่องพื้นที่กางเต็นท์นอนนั้นยังพอมีอยู่

         ทางด้าน   พ.ต.อ.ณัฐธพงษ์ ทองนาค ผกก.สภ.สวนผึ้ง  กล่าวว่า   ได้มีการเปิดเส้นทางจราจรเส้นทางเข้าอำเภอสวนผึ้งเป็นสองเส้นทาง ทำให้นักท่องเที่ยวได้สะดวกสบายจะดูแลให้นักท่องเที่ยวรถไม่ติดการรักษาความปลอดภัยได้จัดสายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ทุกเขต   7  ตำบล  และหน่วยเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2  ชุดเพื่อระงับเหตุพร้อมทั้งทีม ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสพปัญหายางแตกแบตหมดรถไม่ติดอุบกรณ์พร้อมในรถ  และมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวจะปลอดภัยอย่างแน่นอน   

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี บุกจับนักพนันในงานวันเกิดได้นักพนันพร้อมทั้งของกลาง



เจ้าหน้าที่ปกครอง  ตำรวจ ทหาร  สนธิกำลังเข้าร่วมกันทำการจับกุมนักพนันในงานวันเกิดได้ผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลางจำนวนมาก




                      ที่บริเวณล้งมะพร้าว หมู่ที่   2   ต.ขุนพิทักษ์    อ.ดำเนินสะดวก  จ.ราชบุรี   มีการจัดงานครบรอบวันเกิดส่งเสียงดังและเล่นการพนัน      นายประยงค์   จันทรเต็ง   นายอำเภอดำเนินสะดวก    พร้อมทั้ง พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.ดำเนินสะดวกนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งกำลังฝ่ายปกครองและทหารพลพัฒนาที่  1  เดินทางไปพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า  50 นาย พบบริเวณล้งมะพร้าวดังกล่าว มีพื้นที่ประมาณ ไร่  บริเวณอาคารขนาดใหญ่กว้างประมาณ   20  เมตรยาวประมาณ   40 เมตรอยู่ตรงกลาง  ส่วนหนึ่งกำลังตั้งวงกินเหล้าและกินข้าวต้มอยู่  ใกล้กันพบนักพนัน กำลังเล่น การพนันไฮโลกันอย่างสนุกสนาน จึงได้ทำการล้อมทำการจับกุมได้นักพนันจำนวน  15  คนพร้อมทั้งของกลางเป็นแผ่นป้ายบอกแต้ม จำนวน  แผ่น  ลูกไฮโล จำนวน   3   ชุด  และจานเขย่าไฮโลคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจำนวน  เครื่อง และกล้องติดโน้ตบุ๊คจำนจำนวน  ตัว  จึงได้เก็บรวบรวมใว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งนำนักพนันทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

                           จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายศักดิ์ชัย  โงวิวัฒน์กิจ  ได้เข้ามาจัดงานครบรอบวันเกิดภายในล้งมะพร้าว  โดยมีเพื่อนและญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมอวยพรวันเกิดกันเป็นจำนวนมากและได้กินเหล้าร้องเพลงส่งเสียงดังจนทำให้ชาวบ้านไม่พอใจจึงได้แจ้งไปทางอำเภอและได้มีอีกส่วนหนึ่งได้ มีการเล่นการพนันตั้งวงไฮโลเกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการจับกุมดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี ชาวบ้านร้องถูกปิดทางเข้าออกทำให้เดือดร้อน


    ชาวบ้านร้องถูกปิดทางเข้าออกทำให้เดือดร้อน  ทั้งที่เส้นทางนี้ใช้มากว่า 30 ปีแล้ว



  วันที่ 22 ธ.ค. 59  ชาวบ้านในหมู่ 4  ต.ประสาทสิทธิ์  อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี  ได้ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า  ถูกปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน  ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในกว่า 20 ชีวิต นั้นเดือดร้อนเพราะไม่สามารถเข้าออกได้ โดยนายวิเชียร  ลิขิตกสิกุล  อายุ 50 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 4  ต.ประสาทสิทธิ์  ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปิดเส้นทางเข้าออก ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดเนื่องจากเจ้าของพื้นที่คนใหม่ที่มาซื้อแปลงนี้ได้ทำการปิดเส้นทางเข้าออก  ทำให้ไม่สะดวกในการที่จะเดินเข้าออกในหมู่บ้าน  โดยเฉพาะคนแก่ที่จะต้องออกมาหาหมอก็ไม่สามารถออกมาได้ ส่วนเด็กนักเรียนก็ไปโรงเรียนไม่ได้   ที่ผ่านมาก็พยายามเข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าของที่ดินที่มาทำการสร้างประตูปิดทางเข้าออกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา  เพื่อขอความเห็นใจ แต่ทางเจ้าของที่ดินก็อ้างว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นได้มีการซื้อต่อมาและเป็นสิทธิของตนเอง  ถ้าใครจะเข้าออกในเส้นทางนี้จะต้องเสียเงินหลังละ 50,000 บาท และค่าเช่าเป็นรายปีๆละ 2,000 บาท  ซึ่งตนเองกับชาวบ้านนั้นหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินจะไปจ่ายให้  ทั้งที่ถนนเส้นนี้ได้มีการใช้ร่วมกันมากว่า 30 ปี แล้ว และชาวบ้านได้ช่วยกันออกเงินในการซ่อมสร้างถนนในช่วงที่ถนนนั้นพัง  และบางครั้งทางเทศบาลตำบลประสาทสิทธิ์ก็นำเงินงบประมาณเข้าช่วยซ่อมถนนด้วย  แต่เมื่อที่ดินแปลงนี้มีการเปลี่ยนมือ เจ้าของที่ดินคนใหม่ก็ทำการถมถนนขึ้นมาใหม่และทำการสร้างประตูปิดทางเข้าออกทำให้ชาวบ้านนั้นเข้าออกไม่ได้ ต้องแอบเดินเลี่ยงด้านข้างถนนโดยผ่านที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  ซึ่งมีระยะทางเกือบครึ่งกิโลเมตร  รถไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้ต้องเดินอย่างเดียว และถ้าจะออกไปไหนต้องแอบเดินออกไปตั้งแต่เช้ามืดและกลับในช่วงค่ำๆเพื่อไม่ให้เจ้าของที่เห็นเพราะกลัวว่าจะถูกเขาฟ้องว่าบุกรุกที่ดิน   ที่ผ่านมาก็ได้ไปร้องเรียนกับทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดำเนินสะดวกแล้ว  และก็ให้มีการไกล่เกลี่ยกันเอง   แต่ทางเจ้าของที่ดินก็ยังยืนยันที่จะให้จ่ายเงินค่าผ่านประตูให้  จึงอยากขอความเป็นธรรมกับทางหน่วยงานราชการอื่นให้มาช่วยชาวบ้านด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ
    ด้านนายสมอาจ   บุญเพ็ง  อายุ 81 ปี  อดีตผู้ช่วยกำนันตำบลประสาทสิทธิ์  ก็บอกว่า ถนนเส้นนี้ชาวบ้านใช้มากว่า 30 ปี แล้ว ในช่วงที่เป็นผู้ช่วยกำนันก็เคยมาช่วยชาวบ้านซ่อมแซมถนน  แต่ต่อมาที่ดินแปลงนี้ถูกขายมาเป็นทอดๆ และเจ้าของที่ดินคนใหม่ก็ทำการปิดเส้นทางเข้าออก ส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อน
      ส่วนนายพุฒิชัย   สำราญจิต  อายุ 47 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 98  หมู่ 5  ต.ดอนมะโนราห์  อ.บางคณฑี  จ.สมุทรสงคราม  ซึ่งมาซื้อที่ดินในบริเวณดังกล่าวเพื่อทำสวนมะพร้าว เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา  ก็บอกว่า  เดิมนั้นเส้นทางนี้มีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามาซื้อที่ดินในหมู่บ้านเพราะเห็นว่ามีทางเข้าออก  และเคยออกเงินช่วยในการซ่อมแซมถนนหลายครั้ง  แต่จู่ๆเจ้าของที่ดินคนใหม่ที่มาซื้อก็ทำการถมพื้นถนนขึ้นมาใหม่และทำประตูปิดทางเข้าออกทำให้ตนเองนั้นเข้าไปดูแลสวนมะพร้าวไม่ได้เลย ต้องปล่อยให้รกร้าง   จึงอยากขอความเห็นใจจากเจ้าของที่ดินให้ช่วยเปิดทางให้ชาวบ้านได้ใช้บ้าง  หรือขอให้หน่วยงานภาครัฐได้ช่วยลงมาตรวจสอบด้วยว่าเส้นทางดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางสาธารณะหรือไม่ หรือจะต้องให้ชาวบ้านได้ช่วยซื้อกุญแจดอกละ 50,000 บาท   

ราชบุรี ชาวบ้านยกขบวนประท้วงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง



   ชาวบ้านยกขบวนประท้วงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง  ปล่อยข้อมูลรั่วไหลให้ฝ่ายตรงข้าม จนโดนข่มขู่



            วันที่ 22 ธ.ค.59  มีชาวบ้านห้วยขวาง หมู่ 11 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  ประมาณ 100 คน  พากันมารวมตัวที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านโป่ง  ถือป้ายประท้วงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง  มีข้อความ  ประชาชนไร้ที่พึ่งไร้อำนาจ ศูนย์ดำรงธรรมจะมีไว้เพื่ออะไร  ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง ไม่เป็นธรรม เอาข้อมูลชาวบ้านที่มาร้องเรียนไปแจ้งให้ฝ่ายที่ถูกร้องเรียน มารังแกประชาชน   
         สืบเนื่องมาจาก นางสาวนงนุช  เสลาหอม  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ท่าผา  พร้อมชาวบ้าน ได้ร่วมกันลงชื่อร้องเรียนเทศบาลเมืองท่าผา เรื่องทางเทศบาลจะขอศาลาอเนกประสงค์ ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างในพื้นที่ของชลประทาน มานานกว่า 20 ปี   โดยทางเทศบาลจะขอศาลาใช้ทำเป็นสำนักงานสภาเกษตร   แต่ชาวบ้านไม่ยอม เพราะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมหมู่บ้านเป็นประจำ  จึงได้ร่วมลงชื่อมาร้องเรียน  แต่รายชื่อที่ชาวบ้าน ร้องเรียนนั้น  กลับถูกถ่ายเอกสารจากศูนย์ดำรงธรรม   ส่งไปให้ทางเทศบาลและมีการส่งคนออกมาข่มขู่ ว่าจะฟ้องร้อง  จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวว่าจะถูกเทศบาลฟ้องร้อง   จึงได้รวมตัวกันเดินทางไปสอบถามถึงเหตุผลว่า ทำไมข้อมูลที่ชาวบ้านร้องเรียนถึงได้รั่วไหล     ด้าน นายสุรศักดิ์  เสลาหอม  อายุ 64  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 16/8  ม.11  ต.ท่าผา  อ.บ้านโป่ง  ตัวแทนของชาวบ้าน กล่าวว่า   ที่ชาวบ้านมากันวันนี้ เพื่อต้องการมาสอบถามและต้องการคำชี้แจงจาก  ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง ว่าทำไมถึงส่งรายชื่อของชาวบ้าน ให้กับเทศบาลเมืองท่าผา  จนทำให้ให้ชาวบ้านถูกข่มขู่   ทั้งที่ชาวบ้านนั้นคิดว่า ศูนย์ดำรงธรรมนั้นเป็นที่พึ่งแต่กลับปล่อยข้อมูลรั่วไหล  จึงอยากให้ท่านออกมาชี้แจง  เพราะต่อไปคงจะไม่มีใครกล้ามาร้องเรียนอีก
      ต่อมา นายสุชาติ   ดือเร๊ะ  ปลัดอาวุโส  อำเภอบ้านโป่ง  ได้ออกมาชี้แจงว่า การร้องเรียนนั้นต้องส่งข้อมูลให้กับเทศบาลได้รู้ว่า ชาวบ้านนั้นมีใครบ้างที่เดือดร้อน จากการที่จะยึดศาลาอเนกประสงค์ เพื่อให้ทางเทศบาลได้รับทราบ และเข้าไปดำเนินการว่าสมควรที่จะนำศาลาที่ชาวบ้านสร้างนั้น ไปใช้ในประโยชน์อย่างอื่น  ส่วนการที่ชาวบ้านโดนข่มขู่นั้นก็ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีเอง   เมื่อปลัดอาวุโสกล่าวแบบนี้จึงสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก   โดยชาวบ้านที่มาต่างยื่นยันว่า จะรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี   ก่อนจะพากันแยกย้ายเดินทางกลับ 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวบ้านยกขบวนมา ประท้วงศูนย์ดำรงธรรม อยู่นั้น  ได้มีชาวบ้านอีกหลายคน เดินทางจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดในพื้นที่และปัญหาเดือดร้อนเรื่องอื่น  เมื่อมาพบกับเหตุการณ์การนี้ขึ้น  ทำให้ชาวบ้านเหล่านั้นไม่กล้าที่จะเข้าร้องเรียนเพราะกลัวข้อมูลและตัวเองจะถูกเปิดเผย  จึงได้พากันเดินทางกลับทันที   และที่ผ่านมา ก็มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  เคยมาร้องเรียน เรื่องที่ดินพอกลับไปไม่นาน ถูกคนร้ายลอบเผารถจนได้รับความเสียหาย  รวมทั้งชาวบ้านที่มาร้องเรียนเรื่องขยะ พอกลับไปข้อมูลทุกอย่าง ก็ถูกส่งไปให้ผู้ที่ถูกร้อง จนทำให้ชาวบ้านที่มาร้องเรียนถูกข่มขู่และถูกฟ้องหมิ่นประมาทไปหลายราย  ชาวบ้านไม่กล้าที่จะมาใช้บริการของศูนย์ดำรงธรรมในทุกอำเภอ และจังหวัดราชบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหมู่บ้านที่ขึ้นป้ายขายถูกยกหมู่บ้าน

   เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเข้าตรวจสอบหมู่บ้านที่ขึ้นป้ายขายถูกยกหมู่บ้านจะทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารหรือไม่

            
วันที่ 15 ธ.ค. 59  นางสาวประภารัตน์   นาคผจญ   หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)  นายสุวัฒน์   อมรธีระกุล  นายกอบต.คุ้งกระถิน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณหมู่บ้าน(แพรวา 3)  หลังชาวบ้านได้รวมตัวกันขึ้นป้ายขายบ้านในราคาถูกยกหมู่บ้าน  ซึ่งอยู่บริเวณหมู่ 1  ต.คุ้งกระถิน  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  เนื่องจากบ้านที่ซื้อมาในราคา 2 ล้านกว่าบาทนั้น มีทั้งรอยรั่ว  รอยร้าวรอบบ้าน  รวมทั้งกระแสไฟฟ้าก็ไม่เพียงพอทำให้ไฟตกมาตลอด 2 ปี ที่ซื้อบ้านมา  จึงตัดสินใจขายบ้านในราคาถูก   พร้อมทั้งเชิญเจ้าของโครงการหมู่บ้านมาร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย 
     ด้านนางสาวประภารัตน์   นาคผจญ   หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี  ก็บอกว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าของโครงการมาร่วมตรวจสอบพร้อมกัน  โดยให้ทางเจ้าของบ้านแต่ละหลังได้เข้าทำการชี้จุดที่มีปัญหา  และทางเราก็จะทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน  และนำไปสรุปในวันที่ 20 ธ.ค.59  ซึ่งจะมีการนัดประชุมร่วมกันทั้งหมดเพื่อหาข้อสรุป  ส่วนเรื่องของการขออนุญาตของโครงการนั้นก็จะต้องให้ทางท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องของอาคารได้เข้าทำการตรวจสอบเรื่องใบอนุญาติว่าได้มีการขออนุญาติถูกต้องหรือไม่ด้วย
     และการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่วันนี้ นางสาวพิชามญชุ์   สมนาม  เจ้าของบ้านเลขที่ 98  หมู่ 1  ต.คุ้งกระถิน  ซึ่งเป็นหนึ่งในบ้านที่ขึ้นป้ายขายบ้านราคาถูก  ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่บริเวณหลังบ้าน ซึ่งพบว่ามีโถส้วมเก่าที่ถูกฝังอยู่ในดิน  ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนงานที่เข้ามาทำการก่อสร้างแล้วปลูกบ้านพักในบริเวณดังกล่าว  แต่เมื่อเสร็จสิ้นโครงการก็รื้อไปแค่เพียงบ้านพัก ส่วนโถส้วมนั้นแค่ใช้ดินฝังกลบ  แต่วันนี้หน้าดินนั้นพังทะลายไปทำให้โถส้วมโผล่ขึ้นมา   
     นอกจากนี้ด้านหลังของหมู่บ้านดังกล่าว ก็กำลังมีการก่อสร้างหมู่บ้าน  ซึ่งเป็นโครงการต่อจากหมู่บ้านแห่งนี้และกำลังมีการตอกเสาเข็ม ทำให้สะเทือนถึงในหมู่บ้าน  ซึ่งอาจจะยิ่งทำให้เพิ่มรอยร้าวตามผนังและกำแพงมากขึ้น  ทางอบต.คุ้งกระถินจึงได้มีการสั่งให้หยุด  และจะทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารหรือไม่ด้วย



ราชบุรี เจ้าของช้างโร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมหลังถูกกรมอุทยานฯมานำช้างไป

 เจ้าของช้างโร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมหลังถูกกรมอุทยานฯมานำช้างไปหวั่นจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ไม่ได้


         วันที่ 15  ธ.ค.59  นายลี  เพชรกล้า  อายุ 50  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 87  ม.1  ต.กระโพ  อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  พร้อมด้วยนางทองสุข   งามสง่า  อายุ 47 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 1  หมู่ 11  ต.กระโพ   อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  สองคนพี่น้องได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดำเนินสะดวก  จ.ราชบุรี  เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมานำตัวช้างพลายบัวบานที่อยู่ในหมู่บ้านช้าง ซึ่งอยู่ในหมู่ 8  ต.ศรีราษฎร์  อ.ดำเนินสะดวก  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว  และนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย  ต.สามพระยา  อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  โดยอ้างว่า  ช้างเชือกดังกล่าวนั้นมีตั๋วรูปพรรณไม่ตรงตามที่แจ้งไว้ทั้งที่ตนนั้นพยายามที่จะแจ้งว่าช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างมรดกที่ตกทอดมาจากพ่อแม่  ไม่ใช่ช้างป่า  โดยมีแม่ชื่อพังนวน  เกิดที่สวนสามพราน  จ.นครปฐม  และนำไปฝึกที่จ.สุรินทร์  ก่อนจะนำมาไว้ที่หมู่บ้านช้างแห่งนี้เพื่อไว้บริการให้นั่งท่องเที่ยวได้นั่งชมธรรมชาติตามลำคลองดำเนินสะดวก  และนำเอกสารมาแสดงทุกอย่าง  แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันที่จะนำช้างไป  ทำให้ตนต้องมาร้องขอความเป็นธรรม  โดยมีนายประยง   จันทรเต็ง     นายอำเภอดำเนินสะดวก  มารับเรื่องร้องเรียนไว้  และจะดำเนินการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ทางเจ้าของช้างได้นำเอกสารที่มีทั้งหมดมาแสดงเพื่อดำเนินการพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไป  เพื่อให้ความจริงได้ปรากฏ เพราะการที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปนำช้างพลายบัวบานออกมาจะเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว  จึงอยากให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง

   จากนั้นนายประยงค์   จันทรเต็ง     นายอำเภอดำเนินสะดวก  ได้นำสองพี่น้องเจ้าของช้างพลายบัวบานเข้าพบ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์   พงศ์ประภาอำไพ  ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก   เพื่อขอลงบันทึกประจำวันในการที่จะขอไปรับช้างพลายบัวบานกลับมาดูแลจนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าผิดหรือถูก  เพราะเกรงว่าช้างพลายบัวบานที่ไปอยู่ที่อื่นนั้นอาจจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ไม่ได้ และไม่ยอมกินอาหารเพราะเกิดอาการเครียด จึงเกรงว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้ช้างล้มได้

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี พบลูกแมวประหลาดมีเลขบนหลังถึงสามตัว

 พบลูกแมวประหลาดมีเลขบนหลังถึงสามตัว มีเลขเด็ด 7-8-9ธรรมชาติของแมวที่อาจจะมีขนแซมขึ้นมา


            วันที่ 15 ก.ค. 59  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 4  ต.สร้อยฟ้า  อ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  มีลูกแมวประหลาดมีเลข 7 กับเลข 9   ส่วนอีกตัวนั้นมีเลข 8  ซึ่งมองเห็นไม่ค่อยชัด  อยู่บนหลัง  จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่ามีชาวบ้านใกล้เคียงได้มาขอดูลูกแมวสีขาวทั้งสามตัวอยู่    ซึ่งลูกแมวทั้งสามตัวนั้นเป็นแมวพันธุ์ไทย อายุประมาณ 1 เดือน   ซึ่งบนหลังของลูกแมวนั้นมีเลข 7 กับเลข 9  ที่เกิดจากมีขนสีดำขึ้นมาแซมบนหลังจนมองเห็นเป็นเลขชัดเจน  ส่วนเลข 8 นั้น ไม่ค่อยชัด 
      โดยนางสมจิตร   ถ้ำเทศ  อายุ  61 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว  ได้เล่าให้ฟังว่า ลูกแมวทั้งสามตัวนี้ตัวที่มีหมายเลข 7 บนหลัง เป็นเพศผู้  ส่วนอีกสองตัวเป็นเพศเมีย  ส่วนแม่แมวชื่อบุญมา  เพราะเป็นแมวที่หลงมาอยู่ด้วย  จึงได้เลี้ยงไว้  และในวันที่ลูกแมวคลอดก็มาคลอดบนตัวของนางทองใบ   ถ้ำเทศ  อายุ 70 ปี  ซึ่งเป็นพี่สาวที่นอนป่วยอยู่ในบ้าน    ในช่วงที่ลูกแมวเกิดมาใหม่ก็ยังเห็นเลขบนหลังไม่ชัด  แต่เมื่อโตขึ้นมาเรื่อย เลขบนหลังยิ่งชัดขึ้น  จึงได้ตั้งชื่อให้ว่า 7 8 9  ตามเลขบนหลัง  และเมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าวต่างก็มาขอดูลูกแมวทุกวัน  แต่ถ้าใครจะมาขอไปเลี้ยง หรือมาขอซื้อคงจะไม่ให้เพราะรักและสงสารลูกแมว  แต่ไม่ค่อยได้เชื่อเรื่องของโชคลาภ  เชื่อว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของแมวที่อาจจะมีขนแซมขึ้นมา และบังเอิญมาเป็นเลขให้เห็นเด่นชัดเท่านั้น

ราชบุรี อบต.บ่อกระดานจัดประเพณีแห่เทียนพรรษา


 อบต.บ่อกระดานจัดประเพณีแห่เทียน

พรรษาเพื่อเป็นการส่งเสริม สืบสาน และ

อนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม


ของท้องถิ่น




วันที่  15  มิถุนายน   2559    ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อกระดาน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี นายประยงค์  จันทเต็ง   นายอำเภอปากท่อ  เป็นประธานเปิดงานแห่เทียนพรรษา  ปี  2559    โดยมีนายเลื่อน เนื้อนุ่ม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อกระดาน กล่าวรายงานถึงการจัดงานครั้งนี้    มี องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อกระดาน ร่วมกันจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2559ได้ร่วมกับส่วนราชการ บริษัท ห้างร้าน ตลอดจนชุมชน  เข้าร่วมดำเนินการ โดยแต่ละชุมชนตลอดจนบริษัท ห้างร้านต่างๆ ได้จัดขบวนแห่ที่ตกแต่งอย่างสวยงามโดยเน้นความเป็นวิถีดั้งเดิม เช่น การแต่งกายแบบชาวไทยญวน ขณะที่บางบริษัทที่มีคนงานชาวเมียนมาร์ก็ได้สร้างสีสันด้วยการแต่งกายในชุดประจำชาติเมียนมาร์แท้ๆ รวมทั้งการแต่งกายจากประเทศต่างๆในกลุ่มประเทศเอาเซียน สร้างความน่าสนใจให้กับประชาชนที่มาร่วมชมขบวนแห่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขบวนก็ได้เคลื่อนไปยังที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อกระดาน 

               สำหรับประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2559 ที่จัดขึ้นนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อกระดาน ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริม สืบสาน และอนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณ รวมทั้งเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนได้ทำกิขกรรมร่วมกัน เป็นการส่งเสริมภาพรักษ์ในด้านความสมัครสมาน กลมเกลียวของประชาชนในตำบล ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี 

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี บุกจับบ่อนพนันรายใหญ่อ้างเป็นของนายก



 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกเข้าจับบ่อนการพนันอ้างเป็นบ่อนนายกเจ้าหน้าที่ต้องไล่ตามไปจับกลับมาได้รวมนักพนันชายหญิง จำนวน 42 คน


 วันที่ 14  ก.ค.59  นายจำนงค์  จันทวงศ์    ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองราชบุรี  ได้สนธิกำลังร่วมกับนายลือชา  วงศ์เปี่ยม  ปลัดอาวุโสอ.ปากท่อ   เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี  และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์  กว่า 50 นาย ได้บุกเข้าจับกุมนักพนันภายในบ้านเลขที่ 92/2  หมู่ 7  ต.อ่างทอง  อ.เมืองราชบุรี   ซึ่งนักพนันที่กำลังยืนล้อมวงเล่นการพนันเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างก็พากันวิ่งหนี  เจ้าหน้าที่ต้องไล่ตามไปจับกลับมาได้รวมนักพนันชายหญิง จำนวน 42 คน และยังมีบางส่วนที่สามารถวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้     และจากการตรวจสอบพบอุปกรณ์การเล่นการพนันบ่อนถั่ว จำนวนมาก   กล้องวงจรปิด และจอคอมพิวเตอร์  เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอุปกรณ์ไว้ตรวจสอบทั้งหมด   โดยมีนางพัชรินทร์   จริงเจริญชัย   อายุ 40 ปี  รับเป็นเจ้าของบ้าน  และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าจับกุมนั้นได้มีหญิงสาวแต่งตัวดีขับรถหรูมาจอดและลงมาขอเคลียร์ไม่ให้มีการจับกุม รวมทั้งขอเคลียร์กับสื่อมวลชนด้วย โดยอ้างว่าเป็นบ่อนนายกเทศมนตรีในพื้นที่ จ.ราชบุรี  หรือที่เรียกกันว่า บ่อนนายกฯ  แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจพร้อมทั้งนำตัวนักพนันทั้งหมด  42 คน ส่งดำเนินคดีที่   สภ.เมืองราชบุรี  ลักลอบเล่นการเล่นพนัน กำถั่ว  โดยไม่ได้รับอนุญาติ

           สำหรับบ่อนดังกล่าวนั้นเปิดเล่นมานานแล้ว และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า บ่อนการพนันแห่งนี้เป็นบ่อนใหญ่ที่เปิดเล่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง  และทุกๆวันก็จะมีนักพนันจากอำเภอต่างในจ.ราชบุรี มากกว่า 50 คน เข้ามาเล่นภายในบ่อนแห่งนี้  ซึ่งหลังได้รับการร้องเรียนเจ้าหน้าที่จึงได้มีการสนธิกำลังวางแผนเข้าจับกุมจนได้นักพนันจำนวนมากดดังกล่าว