บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราชบุรี เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหมู่บ้านที่ขึ้นป้ายขายถูกยกหมู่บ้าน

   เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเข้าตรวจสอบหมู่บ้านที่ขึ้นป้ายขายถูกยกหมู่บ้านจะทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารหรือไม่

            
วันที่ 15 ธ.ค. 59  นางสาวประภารัตน์   นาคผจญ   หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)  นายสุวัฒน์   อมรธีระกุล  นายกอบต.คุ้งกระถิน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณหมู่บ้าน(แพรวา 3)  หลังชาวบ้านได้รวมตัวกันขึ้นป้ายขายบ้านในราคาถูกยกหมู่บ้าน  ซึ่งอยู่บริเวณหมู่ 1  ต.คุ้งกระถิน  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  เนื่องจากบ้านที่ซื้อมาในราคา 2 ล้านกว่าบาทนั้น มีทั้งรอยรั่ว  รอยร้าวรอบบ้าน  รวมทั้งกระแสไฟฟ้าก็ไม่เพียงพอทำให้ไฟตกมาตลอด 2 ปี ที่ซื้อบ้านมา  จึงตัดสินใจขายบ้านในราคาถูก   พร้อมทั้งเชิญเจ้าของโครงการหมู่บ้านมาร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย 
     ด้านนางสาวประภารัตน์   นาคผจญ   หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี  ก็บอกว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าของโครงการมาร่วมตรวจสอบพร้อมกัน  โดยให้ทางเจ้าของบ้านแต่ละหลังได้เข้าทำการชี้จุดที่มีปัญหา  และทางเราก็จะทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน  และนำไปสรุปในวันที่ 20 ธ.ค.59  ซึ่งจะมีการนัดประชุมร่วมกันทั้งหมดเพื่อหาข้อสรุป  ส่วนเรื่องของการขออนุญาตของโครงการนั้นก็จะต้องให้ทางท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องของอาคารได้เข้าทำการตรวจสอบเรื่องใบอนุญาติว่าได้มีการขออนุญาติถูกต้องหรือไม่ด้วย
     และการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่วันนี้ นางสาวพิชามญชุ์   สมนาม  เจ้าของบ้านเลขที่ 98  หมู่ 1  ต.คุ้งกระถิน  ซึ่งเป็นหนึ่งในบ้านที่ขึ้นป้ายขายบ้านราคาถูก  ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่บริเวณหลังบ้าน ซึ่งพบว่ามีโถส้วมเก่าที่ถูกฝังอยู่ในดิน  ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนงานที่เข้ามาทำการก่อสร้างแล้วปลูกบ้านพักในบริเวณดังกล่าว  แต่เมื่อเสร็จสิ้นโครงการก็รื้อไปแค่เพียงบ้านพัก ส่วนโถส้วมนั้นแค่ใช้ดินฝังกลบ  แต่วันนี้หน้าดินนั้นพังทะลายไปทำให้โถส้วมโผล่ขึ้นมา   
     นอกจากนี้ด้านหลังของหมู่บ้านดังกล่าว ก็กำลังมีการก่อสร้างหมู่บ้าน  ซึ่งเป็นโครงการต่อจากหมู่บ้านแห่งนี้และกำลังมีการตอกเสาเข็ม ทำให้สะเทือนถึงในหมู่บ้าน  ซึ่งอาจจะยิ่งทำให้เพิ่มรอยร้าวตามผนังและกำแพงมากขึ้น  ทางอบต.คุ้งกระถินจึงได้มีการสั่งให้หยุด  และจะทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารหรือไม่ด้วย



ราชบุรี เจ้าของช้างโร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมหลังถูกกรมอุทยานฯมานำช้างไป

 เจ้าของช้างโร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมหลังถูกกรมอุทยานฯมานำช้างไปหวั่นจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ไม่ได้


         วันที่ 15  ธ.ค.59  นายลี  เพชรกล้า  อายุ 50  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 87  ม.1  ต.กระโพ  อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  พร้อมด้วยนางทองสุข   งามสง่า  อายุ 47 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 1  หมู่ 11  ต.กระโพ   อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  สองคนพี่น้องได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดำเนินสะดวก  จ.ราชบุรี  เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมานำตัวช้างพลายบัวบานที่อยู่ในหมู่บ้านช้าง ซึ่งอยู่ในหมู่ 8  ต.ศรีราษฎร์  อ.ดำเนินสะดวก  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว  และนำไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย  ต.สามพระยา  อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  โดยอ้างว่า  ช้างเชือกดังกล่าวนั้นมีตั๋วรูปพรรณไม่ตรงตามที่แจ้งไว้ทั้งที่ตนนั้นพยายามที่จะแจ้งว่าช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างมรดกที่ตกทอดมาจากพ่อแม่  ไม่ใช่ช้างป่า  โดยมีแม่ชื่อพังนวน  เกิดที่สวนสามพราน  จ.นครปฐม  และนำไปฝึกที่จ.สุรินทร์  ก่อนจะนำมาไว้ที่หมู่บ้านช้างแห่งนี้เพื่อไว้บริการให้นั่งท่องเที่ยวได้นั่งชมธรรมชาติตามลำคลองดำเนินสะดวก  และนำเอกสารมาแสดงทุกอย่าง  แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันที่จะนำช้างไป  ทำให้ตนต้องมาร้องขอความเป็นธรรม  โดยมีนายประยง   จันทรเต็ง     นายอำเภอดำเนินสะดวก  มารับเรื่องร้องเรียนไว้  และจะดำเนินการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ทางเจ้าของช้างได้นำเอกสารที่มีทั้งหมดมาแสดงเพื่อดำเนินการพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไป  เพื่อให้ความจริงได้ปรากฏ เพราะการที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าไปนำช้างพลายบัวบานออกมาจะเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว  จึงอยากให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง

   จากนั้นนายประยงค์   จันทรเต็ง     นายอำเภอดำเนินสะดวก  ได้นำสองพี่น้องเจ้าของช้างพลายบัวบานเข้าพบ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์   พงศ์ประภาอำไพ  ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก   เพื่อขอลงบันทึกประจำวันในการที่จะขอไปรับช้างพลายบัวบานกลับมาดูแลจนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าผิดหรือถูก  เพราะเกรงว่าช้างพลายบัวบานที่ไปอยู่ที่อื่นนั้นอาจจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ไม่ได้ และไม่ยอมกินอาหารเพราะเกิดอาการเครียด จึงเกรงว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้ช้างล้มได้