เวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม 2556 นายธัญญารัตน์ พรหมสุทธิ์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ จันทร์เทิง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และนายวิษณุ เปี่ยมพูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบโรงเรียนวัดใหญ่อ่างทอง และวัดใหญ่อ่างทอง หมู่ที่ 1 ตำบลอ่างทอง หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้ปกครองนักเรียนว่า มีเด็กนักเรียนเกิดอาการผื่นคันตามร่างกาย แสบจมูก หายใจติดขัดไม่สบายและต้องปิดห้องเรียนในการเรียนหนังสือแต่ละวันทั้งโรงเรียน จึงเดินทางไปตรวจสอบและขอพบนายโสภณ ตำนานจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อขอเข้าตรวจสอบห้องเรียนต่าง ๆ ซึ่งมีฝุ่นละอองเกิดขึ้นประมาณกว่า 1 อาทิตย์แล้ว ได้รับความเดือดร้อนมาก ตากผ้าไม่ได้ หายใจติดขัด
นายประสิทธิ์ จันทร์เทิง
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1
ตำบลอ่างทองกล่าวว่า เคยแจ้งเรื่องปัญหาฝุ่นละอองจากโรงสีไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งเทศบาลห้วยชินสีห์
หน่วยงานสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม
นายอำเภอเมือง เมื่อปีที่แล้ว
และได้เข้ามาดูแล้วแต่ก็ยังคงมีสภาพเดิมไม่ได้รับการแก้ไข ผลกระทบจากฝุ่นละอองเกิดกับพระภิกษุ ชาวบ้าน
และนักเรียนเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านตากผ้าไม่ได้เนื่องจากจะมีฝุ่นละอองเกาะอยู่จำนวนมาก
เมื่อสวมใส่จะเกิดอาการคัน
หากนำไม้กวาดบริเวณพื้นห้องจะพบมีฝุ่นละอองอยู่จำนวนมาก ตากจีวรกลางแจ้งไม่ได้ต้องเข้าไปตากในห้อง
ส่วนนักเรียนก็ต้องปิดห้องเรียนหนังสือ ซึ่งวัดและโรงเรียนห่างจากปล่องโรงสีเกือบ 100 เมตร
โดยโรงสีอยู่ติดกับโบสถ์ของวัดเป็นปัญหามากจนต้องปิดประตูโบถส์
นอกจากนี้ยังมีนกพิราบมาทำรังอาศัยที่บริเวณโบสถ์
เนื่องจากหากินข้าวเปลือกได้ใกล้กับรังด้วย เคยพูดคุยกับเจ้าของโรงสีไทยรุ่งแล้ว
และรับปากจะดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่เรื่องก็เหมือนเดิม
นายโสภณ ตำนานจิตร
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดใหญ่อ่างทอง
กล่าวว่า โรงเรียนสอนชั้นระดับอนุบาล
1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่
6 มีนักเรียนรวม 126
คน ตอนนี้ถึงฤดูลมเหนือพัดมาก็จะมีฝุ่นละอองมาเยอะตกที่โรงเรียนช่วงนี้
แต่ถ้าหากเป็นเดือนอื่นจะไม่มี จะไปทางหมู่บ้านหมด ซึ่งช่วงหน้าหนาวจะมาทางโรงเรียน
เด็กๆจะเกิดอาการคันตามร่างกาย
มีผู้อำนวยการคนก่อนเคยแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วแต่เรื่องเงียบหาย ตอนนี้ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนคือ
ปิดห้องเรียน และจะต้องเตรียมผ้าเพื่อปิดจมูกให้แก่เด็กๆ เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อน
นายธัญญารัตน์ พรหมสุทธิ์
หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวว่า
ปัญหาเกิดจากโรงสีข้าวทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง ทำให้เกิดควันและฝุ่นละอองออกมาภายนอก
ส่งผลกระทบกับทางชาวบ้าน วัด และโรงเรียน โดยจะการสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน หลังจากนั้นต้องมีการสอบสวนติดตามต่อไป
เบื้องต้นต้องแก้ต้นเหตุก่อนคือ ห้องอบที่มีควันออกมาแล้ว
และต้องขยายห้องให้ใหญ่ขึ้น มีระบบฉีดสเปรย์น้ำเพื่อลดแรงลมก่อน
ซึ่งทางโรงงานยังมีของค้างสต๊อกอยู่ในโกดังประมาณ
15วัน แต่ได้พูดคุยกับเจ้าของโรงสีแล้วว่าหลังจาก 15 วันแล้วให้หยุดดำเนินการเพื่อปรับปรุงแก้ไขก่อน
เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วจากฐานข้อมูลเดิมก็มีปัญหานี้เหมือนกัน และดำเนินแก้ไขแล้วในระดับหนึ่ง
โดยจะให้ผู้ใหญ่บ้านร่วมกันตรวจสอบการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกันได้