บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ชาวบ้านลือตอตะเคียนยักษ์โผล่ดันแพเหล็กขนาดใหญ่ลอยโด่ง

 ชาวบ้านลือตอตะเคียนยักษ์โผล่ดันแพเหล็กขนาดใหญ่ลอยโด่งเชื่ออยู่ในน้ำมานานหลายสิบปีจะต้องทำพิธีเพื่อเชิญขึ้นจากน้ำ
                ที่บริเวณริมน้ำวัดพญาไม้ ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี  มีตอตะเคียนขนาดใหญ่โผล่ดันแพเหล็กริมตลิ่งขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาสูง  มีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูที่บริเวณใต้แพเหล็กขนาดใหญ่ กว้าง 6 เมตร ยาวกว่า 30 เมตรลอยเอียงขึ้นมาเหนือน้ำประมาณ 1 เมตร เมื่อลงไปตรวจสอบจึงพบว่าบริเวณใต้แพมีตอไม้ ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นตอตะเคียนขนาดใหญ่ 3 คนโอบ ต่อมาชาวบ้านได้ลงไปตรวจสอบในน้ำพบว่าตอไม้อยู่ในท่าตั้ง มีความสูงประมาณ 3 เมตร รอบต้น 3 คนโอบ มีรากยาวแผ่รอบประมาณ 3 เมตร ต่อมานายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง นายกเทศบาลตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยรักษาการเจ้าอาวาส และเจ้าหน้าที่ร่วมทำการตรวจสอบว่าจะทำการนำไม้ดังกล่าวขึ้นอย่างไร และจะทำการซ่อมแพที่ได้รับความเสียหายด้วย
                ทางด้าน นางรัตน์ ใจกล้า อายุ 54 ปี ผู้อาศัยอยู่ในเรือที่พบเห็นเป็นคนแรก เล่าให้ฟังว่า บริเวณแพริมน้ำแห่งนี้จะเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ที่ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่จะล่องเรือเที่ยวชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งทุกวันจะมีเรือมาจอดบริเวณนี้กว่า 10 ลำ จะเป็นเรือขนาดใหญ่ แต่เมื่อคืนช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ได้ยินเสียงดังเหมือนมีอะไรมาดันแพตนจึงเดินมาดู ซึ่งตอนนั้นมันมืดและเห็นว่าแพกำลังถูกดันขึ้นก็รอจนถึงเช้าจึงไปดูก็พบตอไม้ขนาดใหญ่ จึงไปเรียกให้ชาวบ้านและพระมาดู ตอนนั้นตอไม้ขนาดใหญ่กำลังดันแพลอยขึ้นสูง ประกอบกับช่วงที่น้ำกำลังลงทำให้แพลอยและเห็นตอไม้ชัดเจน และพบว่าเป็นตอไม้ตะเคียน จึงได้ใช้เรือใหญ่ 3 ลำมาดึงตอไม้ตะเคียน ออกนำเชือกผูกและทำการดึง ในขณะลากเชือกเกิดขาดและตอไม้ก็ไม่ขยับเลย ต่อจากนั้นตนจึงได้จุดธูปอธิฐานถ้าอยากจะขึ้นอยู่ที่วัดพญาไม้ ก็ขอให้ขยับออกมาจะได้นำขึ้นไปไว้บนวัด จากนั้นก็เริ่มดึงอีกรอบปรากฎว่าตอไม้ก็ขยับออกมาแต่ไม่มาก ซึ่งทางวัดพญาไม้ก็พร้อมที่จะนำขึ้นมาไว้ที่วัดนี้ โดยจะต้องทำพิธีในการอัญเชิญตอตะเคียนขึ้นมาอีกครั้ง
               สำหรับนายโกมล พะวง อายุ 65 ปี เจ้าของเรือที่จอดอยู่ใกล้กับแพดังกล่าว ก็บอกว่าตั้งแต่มาอยู่ที่วัดนี้ยังไม่เคยพบเห็นตอไม้ขนาดใหญ่แบบนี้ใต้น้ำมาก่อน และลักษณะอยู่ในน้ำมานานหลายสิบปีแน่ เพราะลอยคราบตะไคร่น้ำเกาะเต็ม ที่สำคัญลอยมาในแนวตั้งตรง โดยเฉพาะลอยมาเลียบกับแนวริมตลิ่งซึ่งมีน้ำตื้น และบริเวณนี้ก็มีเรือขนาดใหญ่จอดอยู่กว่า 10 ลำ ไม่รู้ว่ารอดใต้ท้องเรือเข้ามาอยู่ตรงแพได้อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่แปลก แต่ตอนนี้ต้องรอให้น้ำขึ้นก่อนจึงจะดูว่าขยับออกมาได้หรือไม่

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตัดสินการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น

คณะกรรมการ ตัดสินการ

ประกวดวิสาหกิจชุมชนดี

เด่นระดับเขต เยี่ยมชม

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้าน

กุ่มพัฒนา
                   ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน บ้านกุ่มพัฒนา  หมู่ที่  2 ต.บางแพ  อ.บางแพ  จ.ราชบุรี นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ ผอ.สำนักส่งเสริม และพัฒนาการเกษตร เขตที่   จ.ราชบุรี  ประธานคณะกรรมการ ตัดสินการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับเขตพร้อมทั้งคณะกรรมการ เดินทางมาเยี่ยมชมการทำงานและกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา  โดยมีนายชาตรี จันทร์วีรชัย นายอำเภอบางแพ  และนายคะนอง  โปรักษ์  ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา  พร้อมทั้งสมาชิกร่วมให้การต้อนรับ    
                 สำหรับอำเภอบางแพมีประชากรทั้งหมด 44,428 คน พื้นที่ทั้งหมด 116,068 ไร่ (185.7 ตารางกิโลเมตร) ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร มีพื้นที่ทำการเกษตรรวม 69,947ไร่ อาชีพเกษตรที่สำคัญ คือ การเลี้ยงกุ้งและปลา 32,642 ไร่ ประมาณ 50 % นอกนั้นจะเป็นพื้นที่นาข้าว ปลูกผักผลไม้  โดย มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้ขอจดทะเบียนไว้ทั้งหมด 36กลุ่ม สมาชิก 572  คน มีกลุ่มที่ผ่านการประเมินอยู่ในระดับดี 8 กลุ่ม ระดับพอใช้ 18  กลุ่ม และอีก 10 กลุ่มอยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนา

                กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพ มีผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และสามารถพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชน เป็นตัวอย่างในการประกอบอาชีพการเกษตร จุดเด่นของวิสาหกิจชุมชนนี้ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือเรื่องแนวคิดในการบริหารจัดการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง มีการวิเคราะห์สถานการณ์ สามารถ “คิดเป็น” หาทางแก้ปัญหาของชุมชน มีการนำเอาเทคโนโลยีเรื่องของการประหยัดพลังงานมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินกิจการมีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่างคุ้มค่า ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน