บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ราชบุรี พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ
จังหวัดราชบุรีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(
MOU) การส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนและพัฒนาต้นแบบจังหวัดราชบุรีเมืองสุขภาวะ
ที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรีนายวีรัช
ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์
ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU) การส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนและพัฒนาต้นแบบจังหวัดราชบุรีเมืองแห่งสุขภาวะ ด้าน ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ กล่าวว่า
จังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนด้านสุขภาวะมายาวนานโดย สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดราชบุรี
ขับเคลื่อนการสร้างสังคมสุขภาวะมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2552 และพัฒนางานมา
อย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี พ. ศ. 2561 สสส.ได้ร่วมกับจังหวัดราชบุรีและคณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาให้เกิดพื้นที่ต้นแบบ ที่เป็นรูปธรรมในการเสริมสร้างสุขภาวะอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งให้มีพื้นที่สาธิตการบรรลุเป้าหมาย
10 ปี ได้แก่การลดสูบบุหรี่ ลดการดื่มสุรา ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร
ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในหญิงตั้งครรภ์ เพิ่มการทานผักผลไม้
เพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย ลดภาวะอ้วนในเด็ก ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง
และมีความสุข โดยมีพื้นที่นำร่อง 8 ตำบล 3 อำเภอได้แก่
อำเภอโพธารามอำเภอจอมบึงอำเภอวัดเพลงโดย
เน้นการสานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชนประชาสังคมและชุมชนท้องถิ่นมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการสุขภาวะอย่างมีส่วนร่วมสร้างกลไกสนับสนุนส่งเสริมเครือข่ายให้เกิดการทํางาน
ร่วมกันเสริมสร้างการพัฒนาต้นแบบชุมชนบูรณาการสุขภาวะเสริมสร้างศักยภาพบุคคลในการดำเนินงานจังหวัดบูรณาการสุขภาพและพัฒนาระบบฐานข้อมูลต่อยอดภูมิปัญญาทำงานของเครือข่ายให้เกิด
วัตกรรม สู้การเป็นจังหวัดราชบุรีเมืองสุขภาวะอย่างยั่งยืนและสามารถเป็นต้นแบบสุขภาวะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับพื้นที่อื่นๆต่อไปในอนาคต
สำหรับ นายวีรัช ประเศรษโฐ
กล่าวว่า
สุขภาพดีและชีวิตดีหมายรวมถึงการมีสุขภาวะที่ดีมีสิ่งแวดล้อมสังคมและชุมชนที่ดีด้วย
จังหวัดราชบุรีได้จัด ทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดราชบุรี 2561 ถึง 2564 เป็นเมืองเกษตรสีเขียวเศรษฐกิจมั่นคงสังคมมีความสุขภายใต้การบูรณาการทำงานร่วมกับ
ทุกภาคส่วน ไม่พื้นที่ต้นแบบทั้ง 10 อำเภอ
โดยเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุคคล
ทั้งลดการสูบบุหรี่ลดการดื่มสุราเพื่อการออกกำลังกายเพิ่มการบริโภคผักผลไม้และอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ
เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และ
การมีวินัยจราจรเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุส่งเสริมการทำเกษตรสีเขียววางระบบการกำจัดขยะในชุมชนรวมไปถึงการวางแผนครอบครัวหรือชุมชนและมีการพัฒนาศักยภาพผู้นำเครือข่ายน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
พร้อมกันนี้ รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ กล่าวว่า
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พร้อมร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐเอกชนประชาสังคมและชุมชนในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา
ต้นแบบราชบุรีเมืองแห่งสุขภาวะทั้งในด้านวิชาการการวิจัยและการประเมินผลตลอดจนการเสริมสร้างศักยภาพบุคคลชุมชนเครือข่ายเเละดำเนินกิจกรรมอื่นๆทั้งนี้เชื่อว่าจังหวัดราชบุรีจะประสบความสำเร็จในการพัฒนา
เป็นเมืองแห่งสุขภาวะต้นแบบและกลายเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย
วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ราชบุรี นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มจำลองเหตุการณ์ประกอบสำนวน
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน
วันที่ 15 ก.พ.61 พ.ต.ท.แมนสรวง กาญจนสะอาด รองผกก.สอบสวน สภ.โพธาราม พร้อมด้วย ร.ต.อ.
อุเทน อำนวย ร้อยเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้ให้นายประมวล ทับตุ้ม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/ 11 หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม พร้อมกับพวกรวม 4 คน
มาอุ้มตัวไปจากบ้านอ้างว่ามีหมายค้นโดยตลอดทางที่พาตัวขึ้นรถได้พยายามสอบถามถึงเครื่องสูบน้ำที่ทางผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าหายไป
ว่าอยู่ที่ไหนจากนายประมวลพร้อมกับมีการทุบตีเป็นระยะ
ซึ่งนายประมวลบอกว่าไม่ทราบไม่ได้เป็นคนเอาไปแต่อย่างใด
ทำให้ถูกทำร้ายร่างกายในลักษณะใช้ผ้าคลุมหน้าและมัดมือไขว้หลังไว้
และกลุ่มชายดังกล่าวยังบังคับให้นายประมวลตรวจปัสสาวะและรับสารภาพว่ามียาบ้า
ทั้งที่เมื่อทำการตรวจปัสสาวะแล้วก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
ซึ่งเมื่อไม่มีหลักฐานจากการตรวจปัสสาวะและอื่นๆ
ทางกลุ่มของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวจึงนำตัวนายประมวลมาส่งริมถนนก่อนถึงทางเข้ากลับบ้าน
นายประมวลจึงได้ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกไว้ที่ สภ.โพธาราม
ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 ก.พ.61 ก่อนที่นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม จะพาไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม
จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ซึ่งความคืบหน้าในวันนี้ (15 ก.พ.61) นายประมวลได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนก่อนที่จะเดินทางมาจำลองเหตุการณ์ในวันที่ถูกผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกมาอุ้มจากบ้านไปเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนทุกขั้นตอน
โดยมีนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
และญาติๆของนายประมวลมาร่วมดูการจำลองเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเรื่องให้ทาง ปปท.ดำเนินการฯ
อีกส่วนหนึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกนายสมชาย จังพานิช
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ชำแระ พร้อมพวกรวม 4 คน เข้ามาให้ปากคำ หากไม่มาก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ราชบุรี ร้องศูนย์ดำรงธรรมราชบุรีถูกตำรวจผู้ใหญ่บ้านอุ้มซ้อม
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้พานายประมวล ทับตุ้ม อายุ 38 ปี พร้อมด้วยนางปิ๋ว ทับตุ้ม อายุ 59 ปี มารดา และนางสาวกุสุมา นนทารัตน์ อายุ 35 ปี น้องสาว อยู่บ้านเลขที่ 73/ 11 หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งและผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรุมทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังเมื่อช่วงสายของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยศสารวัตรนายหนึ่ง และผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรวม 4 คน ได้นำตัวนายประมวล ทับตุ้ม อุ้มขึ้นนำพาขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนด์ดำตอนครึ่งหายตัวไป โดยก่อนที่จะนำตัวขึ้นรถชายทั้ง 4 คน ได้นำเสื้อมาคลุมใบหน้า และเอาผ้าขาวม้าผูกมือนายประมวลไขว้หลังอุ้มขึ้นรถหายไปต่อหน้านางปิ๋ว ซึ่งเป็นมารดาซึ่งอยู่ในอาการตกใจเป็นห่วงลูกชายที่ถูกอุ้มพาขึ้นรถโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง จึงได้บอกลูกสาวและญาติๆให้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็พบรถคันดังกล่าวได้ขับมาใกล้กับบ้าน และนำตัวลูกชายลงจากรถในสภาพเหมือนคนได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา
นายประมวล ทับตุ้ม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ทางนายสมชาย
จังพานิชผู้ใหญ่บ้าน และนายสายยัณห์ กันเกรา
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรโจ ได้เข้าไปบ้านและลากตัวออกมาทุบตีนอกบ้าน
โดยอ้างว่ามีหมายค้นจากโรงพัก
แต่ก็ไม่ได้นำออกมาให้ดู
แม้จะขอดูหมายค้นก็ไม่ยอมให้ดู
เมื่อทำร้ายแล้วจึงพาขึ้นรถยนต์กระบะไปโดยใช้ผ้าคลุมหัว
เอาผ้าขาวม้าผูกมือไขว้หลัง
ระหว่างอยู่บนรถได้ถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหนและมีการทุบตีและพยายามสอบถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหน ตนก็บอกไม้รู้เรื่อง ก็พยายามทุบตีหลายครั้ง
จากนั้นก็พาลงรถแต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะถูกผ้าคลุมหัวไว้ จากนั้นได้ให้ปัสสาวะเพื่อนำตรวจหาสารเสพติด
จึงบอกว่าถ้าหากปัสสาวะไม่ได้มีสีม่วงให้พากลับบ้าน
เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็ไม่พบสารเสพติดจึงพากลับบ้าน
ขณะนั้นเกิดผ้าคลุมหัวหลุดจึงเห็นว่าเป็นที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์
อ.โพธาราม
จากนั้นมีการทำสำนวนอะไรไม่รู้
และได้นำยาบ้าใส่หลอดมาวางและถามตนเองว่าจะเอายาใช่มั๊ย
และพยายามจะให้ตนเองถ่ายรูปกับยาบ้าด้วยแต่ตนไม่ยินยอม
ตนพยายามเงยหน้าเพื่อมองการพิมเอกสารแต่ก็ถูกจับกดให้หน้าก้มต่ำจนมองไม่เห็น หลังจากนั้นได้ให้ตนเซ็นเอกสารอะไรก็ไม่รู้
โดยไม่ยอมให้อ่าน แต่ให้เซ็นต์ลายมือในเอกสารอย่างเดียว
พอเสร็จจึงพาขึ้นรถไปส่งที่บ้าน
ตามร่างกายก็ฟกช้ำดำเขียวหลายแห่ง
นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะโดนหนักยิ่งกว่านี้อีก ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
และยังขู่อีกว่าอีก 2
หรือ 3 วันจะมาเอาเอ็งอีก
พอกลับมาถึงบ้านได้ที่โรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา
พร้อมกับไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ สภ.โพธาราม เพื่อเอาผิดกับคนที่ทำร้ายทั้ง 4 คน
วันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม
ทั้งนี้นายภานุมาศ คงพันธ์
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ
ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพร้อมหน่วยทหารได้มารับเรื่องสอบถามข้อมูลรายละเอียด พร้อมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรม
จากนั้นนายทวี ไกรคุปต์
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้นำนายประมวล ทับตุ้ม เดินทางเข้าพบ
พ.ต.อ.นภดล รุ่งสาคร
ผู้กำกับสภ.โพธาราม พ.ต.ท. แมนสรวง
กาญจนสะอาด รองผู้กำกับสอบสวน สภ.โพธาราม
ร.ต.อ. อุเทน อำนวย ร้อยเวร สภ.โพธาราม
เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดในคดีดังกล่าว โดยทางผู้กำกับ สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า
ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ทราบเบื้องต้นแล้ว
ซึ่งขณะนี้ได้รายงานให้นายอำเภอโพธารามทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
ที่มีผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีด้วย นอกจากนี้พบว่าที่ป้อมที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์มีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ในวันเกิดเหตุ
หากมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่าเป็นจริงก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ส่วนที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสารวัตรนายหนึ่งไปเกี่ยวข้องนั้น
ตรวจสอบแล้วทราบว่าไม่ใช่อยู่ในท้องที่ สภ.โพธาราม แต่อยู่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งเมื่อหลักฐาน
พยานต่างๆระบุชัดเจนก็จะส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินการต่อไป
วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ราชบุรี โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์เปิดการแข่งขันกีฬาภายใน
โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์เปิดการแข่งขันกีฬาภายใน
ให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางด้านกีฬาและส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคี
ที่บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี นายชวลิตประทีป ปลัดอาวุโสอำเภอจอมบึง เป็นประธานเปิดการแข่งขัน
กีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ นายสรายุทธ
ลิบไพรวัลย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ ให้การต้อนรับ ทางด้าน นายฉัตรชัย อางนานนท์
หัวหน้ากลุ่มงานสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน
พร้อมทั้งครูและนักเรียน โรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์ ได้ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์
ซึ่งได้จัดเป็นประจำทุกปีเพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
พร้อมทั้งการฝึกการเป็นผู้นำเป็นผู้ตามที่ดีมีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้แพ้ รู้ชนะ
รู้อภัยเพื่อให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะเป็นการเสริมสร้างความสามัคคี
พร้อมกันนี้เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียนไปทำการแข่งขันในระดับภาคและประเทศ
สำหรับการแข่งขัน กีฬาภายในโรงเรียนด่านทับตะโกราษฎร์อุปถัมภ์
แบ่งเป็นจำนวน 4 สี สีชมพู สีแดง
สีเหลืองและสีฟ้า
โดยทำการแข่งขันจำนวน 4 ชนิดกีฬา คือฟุตบอล 9 คน วอลเลย์บอล
เซปักตะกร้อ กรีฑา และ
กีฬาพื้นบ้าน
เช่นชักกะเย่อกระโดดหมู่
วิ่งผลัดกระสอบ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดขบวนพาเหรดกองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์
เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางด้านกีฬาและส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคี
มีสุขภาพพลานามัย ที่สมบูรณ์
พร้อมทั้งก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างครูนักเรียนและผู้ปกครองวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ราชบุรี ประชาชนแห่เที่ยวตลาดถนนเพลินเพลงเชื่อม 3 อำเภอ 2 จังหวัด
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง
หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า
พืชผัก ผลไม้
สำหรับการเปิดงานในเย็นวันนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ได้เดินทางนำครอบครัวเข้ามาแวะพักผ่อนช่วงวันหยุด พร้อมกับเลือกซื้อสินค้า ผักผลไม้สด ๆ จากสวนในราคาถูกกันอย่างคึกคัก จนบริเวณถนนริมน้ำที่สามารถเดินเชื่อมติดต่อพื้นที่อีก 2 อำเภอนั้นช่วงระยะทางเดินไปตามริมน้ำกว่า 700 เมตร เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนต้องเดินเบียดกัน เพื่อเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติริมฝั่งคลองที่สวยงามในบรรยากาศยามเย็นของพื้นที่สองจังหวัด
บริเวณที่ว่าการอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม
นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สาขากาญจนบุรี
นายบรรพต จันทรวงศ์ นายอำเภอวัดเพลง
นายณัฐภัทร์ เอมอ่อน นายอำเภอบางคนที นายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน
นายอำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ร่วมกันเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ ตามที่รัฐบาลมีโครงการตลาดประชารัฐ
เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการที่ไม่มีสถานที่ค้าขายให้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีแนวคิดให้อำเภอวัดเพลงฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าบริเวณ
3 แยกปากคลองประดู่บรรจบคลองแควอ้อม พื้นที่ติดต่อ 3อำเภอ
2 จังหวัด ได้แก่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี อ.อัมพวา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม หลังจากในอดีตบรรดาพ่อค้า แม่ค้าจำนำพืชผัก
ผลไม้ สินค้าการเกษตรจากในสวนออกมาขายกันทำให้มีรายได้ แต่ปัจจุบันได้ซบเซาและเงียบหายไปเหลือไว้แต่ชื่อ
นายชยาวุธ จันทร
ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเปิดเผยว่า
ราชบุรีมีแหล่งเชื่อมโยงท่องเที่ยวได้หลายแห่งในแต่ละอำเภอมีจุดดึงดูดที่น่าสนใจทั้งของโบราณ
วัฒนธรรมต่างๆ เช่น แบบวิถีชีวิตชาวสวนแบบ 3 อำเภอในนามของราชบุรีต้องขอขอบคุณผู้ว่าสมุทรสงครามและนายอำเภอที่พร้อมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมาและหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดน้ำ
3 อำเภอให้ติดตลาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อีกแห่งหนึ่ง
นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า มีตัวอย่างที่สมุทรสงครามโดยเฉพาะตลาดน้ำบางน้อย
เมื่อประมาณปีที่แล้วยังเป็นตลาดน้ำที่คนผ่านไปแล้วแวะเฉยๆ
แต่ปัจจุบันตลาดน้ำบางน้อยได้กลายเป็นจุดแวะเที่ยวไปแล้ว สำหรับตลาดน้ำ 3 อำเภอ 2
จังหวัดนี้มีความหลากหลายมากกว่าทุกที่ไม่ว่าจะเป็นอัมพวา หรือ ตลาดน้ำบางน้อย
หรือตลาดท่าคา ของสมุทรสงคราม อยากฝากให้ทุกคนได้เข้มแข็งในการทำตลาดแห่งนี้
ที่สำคัญหลังจากมาเที่ยวอ.วัดเพลงแล้ว
นักท่องเที่ยวจะได้เดินบริเวณริมน้ำจากอ.วัดเพลงไปอำเภอบางคนทีประมาณ 2 กิโลเมตร
บรรยากาศริมน้ำมีสิ่งสวยงามและธรรมชาติแบบเก่าโบราณ ซึ่งมีบ้านสมัยเก่า
มีลำน้ำคลองแควอ้อมที่ใสสะอาด ตลอดทางจะมีร้านขายของจากพ่อค้า
แม่ค้านำมาวางขายกันมากมายเชื่อมโยงมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในพื้นที่
อย่างไรก็ตามการจัดตลาดน้ำ 3 อำเภอหรือตลาดเพลินเพลง จะเปิดตลาดริมน้ำในทุกบ่ายวันเสาร์จนถึงค่ำ จะมีการประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว และประสานพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม นำสินค้าโอท็อป พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ จากสวนมาจำหน่ายทั้งทางเรือและทางบก เพื่อส่งเสริมสร้างรายได้ ซึ่งนอกจากจะได้มาเที่ยวตลาดน้ำ 3 อำเภอแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขับรถไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีก อาทิ ชมโบสต์คริสต์กว่า 100 ปี สักการะศาลเจ้าพ่อหลักหิน สมัยทวารวดี ชมเพลงปรบไก่ในสมัยโบราณที่หาชมได้ยาก และแหล่งอารยะธรรมพื้นเมืองต่างๆ พร้อมทั้งมีอาหารคาวหวาน ขนมโบราณจากฝีมือเกษตรกรชาวสวนนำมาวางจำหน่ายมากมาย เช่น กล้วยม้วนอบ ขนมงาสลัด และสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจากฝีมือกลุ่มแม่บ้าน ผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับการเปิดงานในเย็นวันนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ได้เดินทางนำครอบครัวเข้ามาแวะพักผ่อนช่วงวันหยุด พร้อมกับเลือกซื้อสินค้า ผักผลไม้สด ๆ จากสวนในราคาถูกกันอย่างคึกคัก จนบริเวณถนนริมน้ำที่สามารถเดินเชื่อมติดต่อพื้นที่อีก 2 อำเภอนั้นช่วงระยะทางเดินไปตามริมน้ำกว่า 700 เมตร เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนต้องเดินเบียดกัน เพื่อเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติริมฝั่งคลองที่สวยงามในบรรยากาศยามเย็นของพื้นที่สองจังหวัด
ราชบุรี บูรณาการภาครัฐตรวจสอบหาสารตกค้างช่วงตรุษจีน
สัตวแพทย์หญิงวรรณี วัฒนพงศ์ชาติ ปศุสัตว์จังหวัดกล่าวถึงกิจกรรมว่า
ได้บูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
เป็นการตอกย้ำว่าราชบุรีเป็นแหล่งผลิตอาหารครัวไทยสู่ครัวโลกที่มีความเป็นมาตรฐาน
มีคุณภาพปลอดภัย ยืนยันจากหน่วยงานราชการที่เข้ามาตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
ในอนาคตตลาดศรีเมืองก็จะเป็นแหล่งศึกษาดูงานของหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศที่จะมาดูเรื่องกระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่ต้นน้ำ
กลางน้ำ ปลายน้ำที่ปลอดภัย
นางวีณา ศรีสรรพางค์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการตลาดศรีเมือง เปิดเผยว่า
ช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้
ทางตลาดศรีเมืองจะได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค วันนี้ได้มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมจัดกิจกรรมพร้อมเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์
พืชผัก ผลไม้ นำไปตรวจสอบหาสารตกค้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
โดยแต่ละร้านจะผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และยังมีป้ายบอกแสดงราคาติดไว้อย่างชัดเจน
เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าที่ดีสะอาด ปลอดภัยและมีคุณภาพด้วย
ราชบุรี - ตําบลเจ็ดเสมียนเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยว
เปิดหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนโบราณบริเวณตลาด 119 ปี เชิงอนุรักษ์ ที่ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรีบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ นิเวศน์ และการอนุรักษ์ ชูอาหารเลิศรสและของดีในท้องถิ่นที่มีมายาวนาน
ที่บริเวณลานกิจกรรมริมน้ำ ตลาดเจ็ดเสมียน 119 ปี ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม
จ.ราชบุรี นายไพบูลย์ บูรณสันติ
ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายสุทธิเดช ริมธีรกุล นายกเทศมนตรีตำบลเจ็ดเสมียน
พร้อมด้วยผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนชาวเจ็ดเสมียน
ได้ร่วมกันจัดพิธีเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลเจ็ดเสมียนตามโครงการพัฒนา
และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ – นิเวศน์และอนุรักษ์ กรมการพัฒนาชุมชน
กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์
โดยตำบลเจ็ดเสมียนมีประวัติความเป็นมาสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
มีความรักความผูกพันในเรื่องการรักชาติรักแผ่นดิน
สมัยนั้นชาวบ้านเจ็ดเสมียนได้อาสาสมัครไปเป็นทหารออกศึกเพื่อกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจำนวน
7 คน
ซึ่งเป็นเสมียนที่มีความรู้ความสามารถในสมัยนั้น
นอกจากนี้พื้นที่เจ็ดเสมียนยังมีการใช้ทุนชุมชนในการต่อยอดพัฒนาในด้านต่างๆ
มาบูรณการระหว่าง 5 ส่วน ในรูปแบบประชารัฐ คือ ท้องที่ ท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน
ภาคการศึกษาและภาคประชาชน โดยปีงบประมาณ
2561 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโพธาราม
ได้ส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวขึ้น
เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นกลยุทธการพัฒนา
สำหรับการจัดงานท่องเที่ยวชุมชนตำบลเจ็ดเสมียนครั้งนี้ได้ใช้ชื่อว่า “เที่ยวท้องถิ่น
กินอิ่มนอนอุ่น ตำบลเจ็ดเสมียน “ มีกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจมากมาย
อาทิ การออกร้านตลาดประชารัฐ พบกับสินค้าโอท็อปชูอัตลักษณ์วิถีชุมชน ได้แก่
การจำหน่ายไชโป๊หวานตำนานต้นตำรับของเมืองไทย
ผลผลิตการเกษตรขากศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ
ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน
รวมถึงงานหัตถกรรมในท้องถิ่นที่เป็นของดี
เช่นการร้อยมาลัยจากกระดาษทิชชู การทำสบู่ การทำไข่เค็มสมุนไพร และกิจกรรมปั่นจักรยาน … ปั่นตามรอยธรรม
ก้าวตามรอยพ่อ เสน่ห์ปลายจวัก
นิทรรศการภาพวาดจากศิลปินลุ่มน้ำแม่กลอง
ซึ่งบรรยากาศค่ำคืนของการเปิดงานเป็นไปอย่างคึกคัก
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแต่งกายลักษณะแบบย้อนยุคสมัยโบราณสวมเสื้อลายผ้าไทย นุ่งผ้าซิ่น
เข้าเที่ยวชมงานและยังได้เลือกชิมอาหารคาว หวาน ขนมโบราณ เช่น ผัดหมี่ ทอดมันข้าวโพด ถั่วแปบ กล้วยตากทอด
ผลิตภัณฑ์จากหัวไชโป๊ ที่มีการแปรรูปเป็นกับข้าวหลายอย่าง
กินกับข้าวต้มใส่ใบเตยที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเบเกอร์รี่ผักกาดเค็มปั้นทำเป็นก้อนกลม
ขนมเบื้องยวนไส้ไชโป๊
ล้วนแต่มีรสชาติที่อร่อยเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวและนักปั่นจักรยานที่ได้เดินชิมอาหารและขนมโบราณฟรีตลอดงาน
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้นำดอกไม้กราบสักการะขอพร พระพุทธชยันตีองค์ดำ
นาลันทา ซึ่งเป็นพระพุธรูปศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)