บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ราชบุรี ร้องศูนย์ดำรงธรรมราชบุรีถูกตำรวจผู้ใหญ่บ้านอุ้มซ้อม



  อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไปทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็



          



 วันที่ 14  กุมภาพันธ์  2561   นายทวี  ไกรคุปต์  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้พานายประมวล ทับตุ้ม อายุ 38 ปี พร้อมด้วยนางปิ๋ว ทับตุ้ม อายุ 59 ปี มารดา และนางสาวกุสุมา นนทารัตน์ อายุ 35 ปี น้องสาว  อยู่บ้านเลขที่  73/ 11 หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี  เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งและผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรุมทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังเมื่อช่วงสายของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยศสารวัตรนายหนึ่ง และผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกรวม 4 คน ได้นำตัวนายประมวล ทับตุ้ม อุ้มขึ้นนำพาขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนด์ดำตอนครึ่งหายตัวไป โดยก่อนที่จะนำตัวขึ้นรถชายทั้ง 4 คน ได้นำเสื้อมาคลุมใบหน้า และเอาผ้าขาวม้าผูกมือนายประมวลไขว้หลังอุ้มขึ้นรถหายไปต่อหน้านางปิ๋ว ซึ่งเป็นมารดาซึ่งอยู่ในอาการตกใจเป็นห่วงลูกชายที่ถูกอุ้มพาขึ้นรถโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง จึงได้บอกลูกสาวและญาติๆให้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ  ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็พบรถคันดังกล่าวได้ขับมาใกล้กับบ้าน และนำตัวลูกชายลงจากรถในสภาพเหมือนคนได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา
    นายประมวล ทับตุ้ม  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ทางนายสมชาย จังพานิชผู้ใหญ่บ้าน และนายสายยัณห์ กันเกรา  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรโจ ได้เข้าไปบ้านและลากตัวออกมาทุบตีนอกบ้าน โดยอ้างว่ามีหมายค้นจากโรงพัก  แต่ก็ไม่ได้นำออกมาให้ดู  แม้จะขอดูหมายค้นก็ไม่ยอมให้ดู เมื่อทำร้ายแล้วจึงพาขึ้นรถยนต์กระบะไปโดยใช้ผ้าคลุมหัว เอาผ้าขาวม้าผูกมือไขว้หลัง  ระหว่างอยู่บนรถได้ถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหนและมีการทุบตีและพยายามสอบถามว่าเครื่องสูบน้ำหายไปไหน  ตนก็บอกไม้รู้เรื่อง ก็พยายามทุบตีหลายครั้ง  จากนั้นก็พาลงรถแต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะถูกผ้าคลุมหัวไว้  จากนั้นได้ให้ปัสสาวะเพื่อนำตรวจหาสารเสพติด จึงบอกว่าถ้าหากปัสสาวะไม่ได้มีสีม่วงให้พากลับบ้าน  เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็ไม่พบสารเสพติดจึงพากลับบ้าน ขณะนั้นเกิดผ้าคลุมหัวหลุดจึงเห็นว่าเป็นที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์ อ.โพธาราม  จากนั้นมีการทำสำนวนอะไรไม่รู้  และได้นำยาบ้าใส่หลอดมาวางและถามตนเองว่าจะเอายาใช่มั๊ย และพยายามจะให้ตนเองถ่ายรูปกับยาบ้าด้วยแต่ตนไม่ยินยอม ตนพยายามเงยหน้าเพื่อมองการพิมเอกสารแต่ก็ถูกจับกดให้หน้าก้มต่ำจนมองไม่เห็น  หลังจากนั้นได้ให้ตนเซ็นเอกสารอะไรก็ไม่รู้ โดยไม่ยอมให้อ่าน แต่ให้เซ็นต์ลายมือในเอกสารอย่างเดียว พอเสร็จจึงพาขึ้นรถไปส่งที่บ้าน  ตามร่างกายก็ฟกช้ำดำเขียวหลายแห่ง  นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะโดนหนักยิ่งกว่านี้อีก  ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร และยังขู่อีกว่าอีก 2  หรือ 3 วันจะมาเอาเอ็งอีก พอกลับมาถึงบ้านได้ที่โรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจรักษา พร้อมกับไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจ สภ.โพธาราม เพื่อเอาผิดกับคนที่ทำร้ายทั้ง 4 คน  วันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม
  ทั้งนี้นายภานุมาศ คงพันธ์  นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพร้อมหน่วยทหารได้มารับเรื่องสอบถามข้อมูลรายละเอียด  พร้อมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรม
  จากนั้นนายทวี  ไกรคุปต์  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้นำนายประมวล ทับตุ้ม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นภดล  รุ่งสาคร ผู้กำกับสภ.โพธาราม  พ.ต.ท.  แมนสรวง  กาญจนสะอาด รองผู้กำกับสอบสวน สภ.โพธาราม  ร.ต.อ. อุเทน อำนวย ร้อยเวร สภ.โพธาราม เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดในคดีดังกล่าว โดยทางผู้กำกับ สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ทราบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้รายงานให้นายอำเภอโพธารามทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ที่มีผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีด้วย  นอกจากนี้พบว่าที่ป้อมที่ทำการตำรวจสายตรวจตำบลบ้านสิงห์มีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ในวันเกิดเหตุ หากมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่าเป็นจริงก็ว่ากันไปตามกฎหมาย  ส่วนที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสารวัตรนายหนึ่งไปเกี่ยวข้องนั้น ตรวจสอบแล้วทราบว่าไม่ใช่อยู่ในท้องที่ สภ.โพธาราม แต่อยู่พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเมื่อหลักฐาน พยานต่างๆระบุชัดเจนก็จะส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น