บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566
ราชบุรี จัดงานแต่งงาน แฝดชายหญิงวัย 3 ขวบ
จัดงานแต่งงาน แฝดชายหญิงวัย 3 ขวบ หวังแก้เคล็ด ตามความเชื่อโบราณให้มีความสุข ประสพความสำเร็จในชีวิต และมีความเจริญก้าวหน้า
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณตลาดน้ำดำเนินสะดวก ต.ดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พ่อและแม่ ได้มีการจัดงานแต่งงานให้กับบุตรชายและบุตรสาว ซึ่งเป็นคู่แฝดชายหญิงวัย 3 ขวบ ระหว่าง เด็กชายอัครเดชา กับเด็กหญิงอัครินลดา ซึ่งเด็กทั้งสองคน เป็นลูกฝาแฝดของนายอัครินทร์ อุรุพงศา และ น.ส.เอมปวีย์ ทวีหิรัณย์ภัชร โดยฝ่ายเจ้าบ่าว น้องอัครเดชา ได้ยกขบวนขันหมากโดยการล่องเรือ ไปสู่ขอเจ้าสาว น้องอัครินลดา ที่ท่าเรือตลาดน้ำยุวันดา มีนายอัครพล อุรุพงศา และ นางวรินทร์นิศา สงวนวงศ์ เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว โดยมีญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย เพื่อนฝูง เข้าร่วมขบวนขันหมาก กันอย่างคึกคัก
โดยเจ้าภาพได้นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป มาทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ และประสาทพร ส่วนพิธีสมรสดังกล่าว ได้มีการจัดพิธีกรรมเหมือนกับพิธีสมรสทั่วไป โดยมีการจัดขบวนขันหมากสินสอดประกอบด้วย เงินสด 999999 สร้อยคอทองคำ พร้อมพระหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง พร้อมแหวนทองคำ 2 วง ต่างหูมุก 1 คู่ หลังจากประกอบพิธีแห่ขันหมาก ผ่านประตูเงินประตูทองแล้ว ทำพิธีรดน้ำสังข์คู่บ่าวสาว ตามประเพณีนิยม
สำหรับการจัดงานวิวาห์ซึ่งเป็นฝาแฝดชายหญิง ได้จัดงานตามความเชื่อโบราณที่ว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกันตั้งแต่ชาติก่อน แต่ไม่สมหวัง จึงได้เกิดมาเป็นพี่น้องกัน ตามธรรมเนียมไทยจึงได้จัดให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน เพื่อให้สมปรารถนา หวังแก้เคล็ดตามความเชื่อผู้เฒ่าผู้แก่ ให้ทั้งสองมีความสุข ประสพความสำเร็จในชีวิต สุขภาพดีไม่เจ็บป่วย และมีความเจริญกาวหน้าในหน้าที่การงานต่อไป
ราชบุรี กรรมมาธิการอุสาหกรรมลงพื้นที่หลังชาวบ้านร้อง
กรรมมาธิการอุสาหกรรมลงพื้นที่หลังชาวบ้านร้องโรงงานแอบนำน้ำเสียทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาตนานนับ10ปี
ที่หมู่ 2 ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมมาธิการอุสาหกรรมสภาผู้แทนราษฎรพร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ที่ดิน นส3ก ที่เอกชนรายหนึ่งครอบครองกินพื้นที่กว่า 2300 ไร่หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการแอบลักลอบนำน้ำเสียจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งในอ.บ้านโป่งมาทิ้ง ซึ่งติดกับพื้นที่วนอุทยานเขาน้อย ติดต่อกันมานับ10ปี จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายสภาพเป็นบ่อน้ำเสียสีดำกินพื้นที่เป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังไม่มีการขออนุญาตไปยังทางกรมอุตสาหกรรมหรือกรมป่าไม้แต่อย่างใด
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า จะเห็นรถพ่วงบรรทุกน้ำเสียสีดำนี้มาทิ้งทุกวัน วันละ 10 พ่วงเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จนล่าสุดทางชาวบ้านได้มีการบันทึก รถบรรทุกน้ำเสียนำมาทิ้งในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
นายอัครเดช กล่าวว่า วันนี้ผมในฐานะประธานคณะกรรมมาธิการอุตสาหกรรมสภาผู้แทนราษฏรได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนผ่านมายังกรรมมาธิการว่ามีการทิ้งกากของเสียจากโรงงานอุตสหากรรม วันนี้จึงได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบ ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่อย่างไรก็เลยเชิญทางอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี และกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมถึงฝ่ายปกครอง เจ้าของพื้นที่ โดยกรมทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดูแลพื้นที่นั้นก็คือกรมป่าไม้รวมฝ่ายปกครองและท้องถิ่นด้วย ก็มาเก็บข้อมูล ซึ่งในเบื้องต้นเดี๋ยวจะให้ทางอุตสหากรรมจังหวัดราชบุรีมาให้ข้อมูลว่าในเบื้องต้นเราพบอะไรบ้าง ผมเองในฐานะประธานคณะกรรมมาธิการอุตสาหกรรมสภาผู้แทนราษฏร เดี๋ยวผมจะออกหนังสือเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมป่าไม้ กรมควบคุมมลพิษ กองบังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อมก็ดี และทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดคิดว่าน่าจะประมาณวันที่ 15 ก็จะมาประชุมในพื้นที่นี้ เพื่อจะมาติดตามความคืบหน้า เพราะว่าพี่น้องประชาชนร้องเรียนมาและใกล้กับเขตวนอุทยานเขาน้อย ซึ่งต้องมาทำเรื่องนี้ให้กระจ่างเพราะพี่น้องประชาชนได้ร้องเรียนมา ทราบจากทางผู้นำท้องถิ่นว่ามีการร้องเรียนกันมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งในวันนี้เราได้ลงพื้นที่ก็เห็นแล้วเราก็ต้องรีบเร่งดำเนินการเพราะว่ามีการนำเอากากของเสียมาทิ้งที่นี่เป็นจำนวนมาก
นายบุญสิทธิ์ เรืองผล อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นเราจะทำการตรวจสอบว่าพื้นที่ตรงนี้ใครเป็นเจ้าของ เท่าที่ทราบพื้นที่ตรงนี้เป็น นส.3 แล้ว และในวันนี้เราได้ขอแรงจากเจ้าหน้าที่วิจัยของกรมโรงงานมาทำการเก็บน้ำไปตรวจสอบแล้วซึ่งลักษณะของน้ำน้นเป็นกากของเสียสีดำหลักจากนี้จะส่งตัวอย่างน้ำไปทำการวิเคราะห์ตรวจสอบน้ำ ซึ่งผลน่าจะออกมาทันวันที่ 15 นี้ที่จะมีการประชุมกัน ในส่วนพื้นที่ดังกล่าวถ้าผลการสืบสวนทราบว่าเป็นของใครก็จะทำการกล่าวโทษร้องทุกข์กันไป ซึ่งในเบื้องต้นนั้นได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเจ้าของที่ดินนี้เป็นของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งน้ำเสียนี่เราก็ไม่รู้มาจากที่ไหนด้วย เพราะฉนั้นเราจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนถึงจะรู้ว่าพื้นที่นี้เป็นของใคร น้ำเสียเป็นของใคร ในส่วนของชาวบ้านที่กล่าวอ้างว่าเจ้าของที่ดินนี้เป็นของบริษัทน้ำตาลแห่งหนึ่งแต่ผมยังไม่รู้ว่าโรงงานน้ำตาลแห่งไหนซึ่งโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ อ.บ้านโป่งมีแค่2โรง แต่ที่พื้นที่ดินตรงนี้อยู่ในเขต อ.โพธาราม ในส่วนผลของคดีนั้นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของเอกชลหรือโรงงาน ในการนำของเสียมาทิ้งนั้นจะต้องได้รับการขออนุญาติถ้าไม่มีการขออนุญาติมีความผิดแน่นอน อัตราโทษนั้นมีการดำเนินคดีกับเปรียบเทียบปรับ
ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ร้องเรียนมานั้นมีคลิปซึ่งเขาตามจากโรงงานและตามมาจนถึงที่ทิ้ง คลิปดังกล่าวเดี๋ยวจะส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปทำการสืบสวนสอบสวน และในวันที่ 15 นี้ก็จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมอีกทีหนึ่งซึ่งในเบื้องต้นวันนี้เรามาดูว่ามีการทำความผิดจริงหรือเปล่าและความผิดในแต่ละประเภทเช่นความผิดเกี่ยวกับกรมโรงงานไหม ความผิดเกี่ยวกับกรมป่าไม้ไหม และในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางก็จะนำมาบูรณการทั้งหมดเพราะทางสอบสวนกลางจะเป็นผู้มาดูแลคดีนี้ ในส่วนของการดำเนินคดีก็เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนตัวผมเองนั้นผมจะให้ความสำคัญของเรื่องการทิ้งกากของเสียเป็นสำคัญที่สุด อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการทุกแห่ง แห่งไหนทำดีอยู่แล้วก็ขอให้ท่านทำต่อไป แต่โรงงานไหนที่ทำผิดกฏหมายขอให้ท่านหยุดเลย ซึ่งถ้าทางเราได้รับการร้องเรียกจากชาวบ้านเราก็จะลงพื้นที่ ซึ่งตอนนี้ทางกรรมมาธิการของเราๆได้ตั้งคณะทำงานลงพื้นที่เก็บข้อมูลเวลาพี่น้องประชาชนร้องเรียนมาซึ่งเราไม่ใช่มาที่นี่ที่แรก เราไปมาหลายที่และก็พบการกระทำความผิดจริง ในส่วนของกฏหมายเราจะต้องเสนอให้มีการแก้ไขกฏหมายให้รุนแรงขึ้น เพราะการทิ้งกากของเสียจะเป็นภาระให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ในส่วนที่มีการร้องเรียนมาว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามามีส่วนรู้เห็นการกระทำดังกล่าว ตนก็อยากจะบอกว่าส่วนหนึ่งก็จะมาจากการปล่อยปะละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ปัญหามันสะสมขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ดีก็มี ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามามีส่วนรู้เห็นทางเราถ้าทำการสืบสวนพบก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้ ปปช ทราบทำการสอบสวนทางวินัยและอาญา ในส่วนการกล่าวอ้างว่าโรงงานนำตาลทั้ง2แห่งในอ.บ้านโป่ง ซึ่งมี1แห่งได้รับการประกาศให้เป็นโรงงานต้นแบบแต่มาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น แต่ทางเราเองตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นโรงงานไหน คงต้องทำการสืบสวนสอบสวนก่อน และในวันที่ 15 นี้เราจะมีการประชุมชี้แจงหาข้อสรุปกันโดยจะเชิญอธิปดีมาด้วย และจะมาตอบให้ประชาชนทราบว่าเราได้ดำเนินการอย่างไรไป แต่ถ้าสมมุติว่าเกิมาจากโรงงานนำตาลต้นแบบเราก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายแต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน
วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2566
ราชบุรี สาวใหญ่ อุ้มแพะถูกฝูงสุนัขรุมกัดตายเข้าแจ้งความ
สาวใหญ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บรรทุกแพะเพศเมียที่ตาย ขับเข้ามาจอดที่หน้า สภ.บ้านโป่ง อุ้มแพะ ขึ้นบนโรงพัก แจ้งความ
วันที่ 6 ธ.ค.66 นางธัญญะรัตน์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) บรรทุกแพะเพศเมียที่ตายแล้ว ขับเข้ามาจอดที่หน้า สภ.บ้านโป่ง หลังจาก จอดรถแล้วได้ก้าวขึ้นไปบนซาเล้ง นั่งลงใกล้ๆกับแพะที่ตายแล้วใช้มือรูปหัวของมัน โดยมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความรักและสงสารแพะ ซึ่งสภาพของแพะที่ตายนั้นมีบาดแผลเหวอะหวะหลายแห่ง เพราะถูกสุนัขรุมกัด หลังจากนั้นนางธัญญะรัตน์ ได้พยายามนำแพะ ขึ้นไปบนโรงพัก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอร้องให้นำซากแพะที่ตายไว้บนรถซาเล้ง แล้วให้ ขึ้นไปบนโรงพัก แจ้งความกับ พ.ต.ต.ธีรพงศ์ สะอาด สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง พร้อมเล่าว่าแพะที่ตนเลี้ยงไว้ข้างทุ่งนาหลังบ้าน ได้ถูกฝูงสุนัขของผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่ง ที่เลี้ยงไว้ ออกมารุมกัดแพะจนตาย โดยเจ้าของสุนัข นั้นไม่ยอมรับผิดชอบ ตนจึงนำแพะขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาแจ้งความกับตำรวจ
สาวใหญ่ เจ้าของแพะ เล่าต่อไปว่า เวลาประมาณบ่าย 2 โมงกว่า ตนได้นำแพะที่เลี้ยงหลายสิบตัว ไปปล่อยเลี้ยงกลางทุ่งนา ต่อมาแพะได้เห็นฝูงหมาวิ่งมา แพะกลัวก็พาวิ่งหนีเข้าบ้านได้ แต่เจ้าตัวที่ตายวิ่งหนีไม่ทัน ก็เลยถูกหมารุมกัดจนตาย หมาจำนวน 5 ตัวที่รุมกัด ส่วนหมาที่มารุมกัดนั้น เจ้าของผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่ง วันนี้เลยต้องเอาซากแพะที่ตายมาแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไกล่เกี่ย แต่ทางเจ้าของหมา บอกให้มาแจ้งความได้เลย ที่ตนมาแจ้งความนั้นเพื่อต้องการให้เขาออกมารับผิดชอบ การที่สุนัขของเขาออกมาสร้างความเสียหาย ไม่ใช่มาบอกว่าแพะเราวิ่งไปให้หมากัดมันไม่ใช่ค่ะ ส่วนซากแพะนั้นตนก็จะนำกลับไปฝัง ที่เราเอาซากแพะมาก็เพื่อให้ดูว่าแพะเราตายจริง ซึ่งทางบ้านตนมีอาชีพเลี้ยงแพะ มีแพะประมาณ 40 กว่าตัว `นางธัญญะรัตน์ กล่าวด้วยสีหน้าที่เศร้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากรับคำร้องทุกข์แล้ว จะได้ดำเนินการต่อไป โดยจะเชิญตัวเจ้าของสุนัขและเจ้าของแพะมาไกล่เกี่ย อีกครั้ง
วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566
เทศบาลเมืองราชบุรีลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ส่งมอบ-รับมอบ
อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี (จวนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีหลังเก่า) จากจังหวัดราชบุรี
ที่อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานกล่าวส่งมอบ- รับมอบอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ให้กับเทศบาลเมืองราชบุรีดูแล โดยมีนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เป็นผู้กล่าวรับมอบ จากนั้นเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการส่งมอบ – รับมอบอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีกับ นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี มีนางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี นางสาวริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พล.ต.ธีรพล ศรีเกษม รองเจ้ากรมการทหารช่าง พล.ตรี ประยุทธ ผดุงพจน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 16 นายศักดิ์ดา เวียงแก้ว ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดราชบุรี พ.อ.ชุติภัทร วรรณทอง ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 ส.ส.กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารเทศบาลเมืองราชบุรี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี แขกผู้มีเกียรติ ผู้นำชุมชนและสื่อมวลชล ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว
สืบเนื่องจากกรมธนารักษ์ ซึ่งดูแลที่ดินราชพัสดุ อันเป็นที่ตั้งของอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี และกรมการปกครองเป็นส่วนราชการครอบครองการใช้ประโยชน์ โดยสำนักงานจังหวัดราชบุรีได้ขอใช้ที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวจากรมการปกครองและที่ทำการปกครองจังหวัดราชบุรี ได้อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุเป็นการชั่วคราว มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี เพื่อมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการตามโครงการฯ และจังหวัดราชบุรี ได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม เพื่อยกระดับการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มทวาราวดี กิจกรรมปรับปรุงจวนผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีหลังเก่าเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรม โดยใช้งบประมาณจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 และงบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (ราชบุรี) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และ พ.ศ.2564 โดยมีสำนักงานจังหวัดราชบุรี และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนและบูรณาการความร่วมมือ เพื่อให้การบริหารจัดการ ดูแลบำรุงรักษา การใช้ประโยชน์อาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมหารือการบริหารจัดการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีที่มีความเห็นร่วมกันให้ เทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการบริหารจัดการอาคาร จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงการส่งมอบ - รับมอบอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ขึ้น
ราชบุรีจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ
จังหวัดราชบุรีจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566
ที่บริเวณโดม โรงยิมเนเซี่ยมจังหวัดราชบุรี เกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 โดยประกอบ พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล มีพระธรรมปัญญาภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค15 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นำพระสงฆ?สมณศักดิ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ์อนุโมทนา/ถวายอดิเรก จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นำภาครัฐ เอกชน และประชาชน ทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
จากนั้นในเวลา 09.00 น.ที่โรงยิมเนเซี่ยมจังหวัดราชบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยนำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์ ทรงปฏิบัติตามพระราชปณิธาน ด้วยพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่น ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์โดยถ้วนหน้า ทรงปฏิบัติบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชวิริยะอุตสาหะ เพื่อให้ทวยราษฎร์มีความผาสุกร่มเย็น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทรงคิดค้นวิธีคลี่คลายบรรเทาปัญหาของราษฎรผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงพระกรุณาพระราชทาน “ศาสตร์แห่งพระราชา” เพื่อเป็นแนวทางให้ราษฎรพึ่งพาตนเอง ได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน และใช้ผืนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งผลงานโครงการมากกว่า 4,000 โครงการ อันเกิดจากพระปรีชาสามารถของพระองค์ ล้วนได้รับการยกย่องสดุดีพระเกียรติคุณ ทั้งภายในประเทศ และจากนานาประเทศ ว่าเป็นผลงานที่ทรงคุณค่า และอำนวยประโยชน์อย่างยิ่งแก่ปวงพสกนิกรชาวไทย ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจแก่ประเทศต่างๆหลายประเทศ ในกาลต่อมา
ราชบุรี วันพ่อแห่งชาติจัดเทศน์มหาชาติอนุรักษ์ประเพณีไทย
วัดหทัยนเรศวร์ จัดโครงการส่งเสริม สืบสาน และอนุรักษ์ประเพณีไทย จัดเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์วันพ่อแห่งชาติถ่ายทอดบทบาทชีวิตพระเวสสันดร ผู้มีความโอบอ้อมอารีบำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่
ที่วัดหทัยนเรศวร์ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พระอธิการมานะ ฐานธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหทัยนเรศวร์ ได้จัดโครงการส่งเสริม สืบสาน และอนุรักษ์ประเพณีไทย การเทศนมหาชาติ 13 กัณฑ์ในวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณ “การเทศน์มหาชาติ” เป็นการถ่ายทอดบทบาทชีวิตพระเวสสันดร ผู้มีความโอบอ้อมอารีบำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่ในฐานะพระโพธิสัตว์ โดยมีพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง เดินทางมาร่วมจองกัณฑ์เทศน์ ทั้งหมด 13 กัณฑ์ เพื่อให้ดำเนินชีวิตตามหลักธรรมะ จะได้รับผลดีดังในพระคัมภีร์จารึกใว้ตามกำลังศรัทธาพร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนอีกด้วย
สำหรับการเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ได้แก่ กัณฑ์ที่ 1 กัณฑ์ทศพร ว่าด้วยเรื่องในอดีตชาติ พระนางผุสดีอัครมเหสีของพระอินทร์ถึงคราว จะสิ้นบุญจากสวรรค์ ได้รับพร จากสวรรค์ ได้รับพร 1 จากพระสวามี กัณฑ์ที่ 2.กัณฑ์หิมพานต์ กล่าวถึงพระนางผุสดีมาเกิดเป็นอัครชายของพระราชาแคว้นสีพีรัฐ กัณฑ์ที่ 3.กัณฑ์ทานกัณฑ์ ว่าด้วยเรื่องพระเวสสันดร ทูลลาพระบิดาพระมารดา ก่อนออกเดินทาง พระองค์ได้ขอบริจากทานใหญ่ เ รียกว่า สัตตสดกมหาทาน กัณฑ์ที่ 4 กัณฑ์วนประเวศน์ กล่าวถึงสี่กษตริย์เดินดงบ่ายพระพักตร์สู่เขาวงกต กัณฑ์ที่ 5 กัณฑ์ชูชก กล่าวถึงซูรกได้นางอมิตตาลูกสาวเพื่อนมาเป็นเมีย กัณฑ์ที่ 6 กัณฑ์จุลพน กล่าวถึงเฒ่าซูซกออกเดินทางไปเขาวงกต เพื่อขอชาลีและกัณหา กัณฑ์ที่ 7กัณฑ์มหาพน ว่าด้วยเรื่องเฒ่าซูขกเดินทางมาถึงกลางป่าใหญ่ พบกับพระอัจจุตฤาษี กัณฑ์ที่ 8 กัณฑ์กุมาร ว่าด้วยเรื่อง ซาลีและกัณหาได้ยินชูซกมาขอตนกับพระเวสสันดร ต่างพา กันไปแอบในสระบัว กัณฑ์ที่ 9 กัณฑ์มัทรี ว่าด้วยเรื่อง พระอินทร์แปลงกายมาเป็น 3 เสือ มาขวางทางกลับอาศรม กัณฑ์ที่ 10 กัณฑ์สักบรรพ ว่าด้วยเรื่อง พระอินทร์แปลงกายเป็นพราหมณ์ มาขอนางมัทรี กัณฑ์ที่ 11 กัณฑ์มหาราช ว่าด้วยเรื่อง เฒ่าชูชกพาสองกุมารหลงทางไปถึงเมืองสีพี กระทั่งได้ พบพระเจ้าปู่พระเจ้าย่า กัณฑ์ที่ 12 กัณฑ์จกษัตริย์ ว่าด้วยเรื่อง 6 กษัตริย์มาพบกัน เกิดสลบไป พระอินทร์ รู้เหตุการณ์ บันดาลให้เกิดฝนโบกขรพรรษตกลงมากัณฑ์ที่ 13 กัณฑ์นครกัณฑ์ ว่าด้วยเรื่อง พระเวลสันดร รับพระราชทานเครื่องทรงกษัตริย์ แล้ว เสด็จกลับไปครองเมืองสีพี ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
ทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่มีค่าแก่การศึกษาเพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาแก่สังคมในยุคปัจจุบันในวงการผู้นับถือพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่าถ้าได้ฟังเทศน์มหาชาติครบ 13 กัณฑ์ และดำเนินชีวิตตามหลักธรรมะที่ท่าน ประมวลไว้ในพระคัมภีร์จะได้รับผลดีถึง 3 ชั้น 1 ชาตินี้ชีวิตจะความสุขร่มเย็น ดังเช่นอริยะชนเพราะมีธรรมะรักษา 2. ครั้นแตกกายทำลายขันธ์ จะมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า 3 จะได้พบพระศาสนาของพระศรีอริยเมตตรัยในอนาคต เมื่อผู้ที่ฟังแล้ว ย่อมมีจิตใจผ่องแผ้วเบิกบาน ทำบุญทำทานเป็นการบูชาเทศน์แต่ละกัณฑ์ ย่อมจะก่อให้เกิดผลานิสงส์เป็นไป ตามจิตจำนงที่ปรารถนาของชาวพุทธทั่วไป
วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566
ราชบุรี หล่อองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรและมอบถุงยังชีพ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานหล่อองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรพร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคถุงยังชีพให้กับประชาชน ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พุทธสถานเต๋อฮว่า (ปั้มน้ำมันบางจาก)ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พระปิยทัสสี เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี(ธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พระอาจารย์จีนวินยานุกรสุนทรธรรมภูษิต ปริยัติกิจกิจโกศล ประธานสงฆ์ฝ่ายจีนนิกายโดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ นายวุฒิพงศ์ นางสมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ เป็นประธานอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นบิดามารดาของ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดพิธีหล่อพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงปู่ไต่ฮงกง และ ไฉ่ซิงเอี๊ยะ(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เพื่อก่อตั้ง มูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาสงเคราะห์
โดยมี นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นส.กุลวลี นพอมรบดี สส.เขต 1 ราชบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติ นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.กระทรวงสาธารณะสุข พร้องทั้ง นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมทั้ง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง เดินทางเข้าร่วมงานบุญหล่อองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาศ ผู้ยากไร้และผู้สูงอายุ ในพื้นที่ เพื่อการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับการก่อตั้งศาลเจ้า ศาลประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม ศาลาแปดเหลี่ยมทรงจีน และศาลหลวงปู่ไต่ฮงกง เนื่องยังไม่มีสถาปัตยกรรมจีน ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมจีน ซึ่งมีคนไทยเชื้อสายจีนมาตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอจอมบึง มาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ดังนั้นนายวุฒิพงศ์ นางสมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนจึงได้มีดำหริ พร้อมด้วย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ซึ่งเป็นบุตรชาย และครอบครัว จึงก่อตั้งศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมจีนเพื่อประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันกร และศาลทีกง หรือศาลเทียนสี่ฟูมู่ หรือศาลเทวดาฟ้าดิน นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้งศาลหลวงปู่ไต่ฮงกง ซึ่งภายในศาลหลวงปู่ไต่ฮงกงก็จะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบหลวงพ่อพระใส และมีองค์ไฉ่ซิงเย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปได้มากราบสักการะบูชา ซึ่งหลังจากได้มีการก่อตั้งพุทธสถานเตอหว่าแล้ว ซึ่งเป็นสถานธรรมที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมและพระอรหันต์จี้กง
และได้มีการปรับปรุงอาคารสถานธรรม หรือพุทธสถานเต่อหว่าขึ้นโดยได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติม ศาลซึ่งจะประดิษฐานหลวงปู่ไต่ฮงกงและองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นศิริมงคล พร้อมกันนี้ยังเป็นการเริ่มต้นในการก่อตั้งมูลนิธิวงษ์พิทักษ์ร่วมประชาสงเคราะห์ เพื่อก่อตั้งอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่อำเภอจอมบึงอย่างเป็นทางการ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและประสบอุบัติเหตุ เพื่อช่วยเหลือทางราชการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตต่อไปอีกด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)