บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี โครงการพระราชดำริด้านสมุนไพรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
จัดโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทรงส่งเสริมให้แต่ละท้องถิ่นรู้จักสรรพคุณของพืชสมุนไพร และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์และดำเนินชีวิตใกล้ธรรมชาติยิ่งขึ้น
ที่ห้องประชุมศาลาประชารวมใจ เทศบาลเมืองราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ตามพระปณิธานของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี นส.ทัธนา สุวรรณชัย ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการดำเนินงาน โครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทรงส่งเสริมให้แต่ละท้องถิ่นรู้จักสรรพคุณของพืชสมุนไพร และสามารถนำสมุนไพรพื้นบ้านในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ ทำให้เห็นคุณค่าและกลับมาดำเนินชีวิตใกล้ธรรมชาติยิ่งขึ้น เกิดความภาคภูมิใจในมรดกทางปัญญาเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน
สำหรับโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการใช้สมุนไพรและต้องการสานต่อพระปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหาได้ง่าย ในท้องถิ่นมาใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่โบราณ สามารถรักษาโรคบางชนิดได้โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดมีราคาแพง ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง และอาจหาซื้อได้ยาก แตกต่างจากสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไป โดยมีทั้งกลุ่ม อสม. แกนนำชุมชน ประชาชนทั่วไป กว่า 140 คนให้ความสนใจเข้ารับการอบรมเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชุมชนและในครัวเรือนต่อไป
ทำพิธีทางศาสนาจัดพิธีฌาปนกิจ
ทำพิธีทางศาสนาจัดพิธีฌาปนกิจเพื่อผู้วายชนม์สู่สรวงสวรรค์
ที่ศาลามั่นยิ่ง วัดเจ็ดเสมียน อำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี พระมหาสมคิด อตถสิทโธ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ ประธานฝ่ายสงฆ์ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรีเขต 5 พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานพิธี ฌาปนกิจ นางนิชาภา จตุรพิธพร อดีตครู โรงเรียน บางแพปฐมวิทยา อ.บางแพ จ.ราชบุรี โดยมีญาติสนิทมิตรสหายที่ใกล้ชิดเดินทางมาร่วมงานจำนวนมากร่วมกันวางดอกไม่้จันทร์ก่อนเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตออกจากศาลาขึ้นไปยังเมรุเพื่อทำพิธีทางศาสนาเพื่อให้ผู้วายชนม์ไปสู่สุคติและภพภูมิที่ดีขึ้นสู่สรวงสวรรค์
สำหรับนางนิชาภา จตุรพิธพร อายุ 64 ปีป่วยประมาณ 2 เดือนและเสียชีวิตอย่างสงบเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 เป็นภรรยา นายกุศลจตุรพิธพร เลขาสมาคมฟุตบอลจังหวัดราชบุรี เป็นผู้ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก มีบุตร1 คน นางสาวธนสร จตุรพิธพร โดยมีการจัดพิธีสงฆ์สวดพระอภิธรรมในวันที่14-15พฤษภาคมที่ผ่านมาและวันที่16 พฤษภาคม2567 เวลา17.00 น.ทำพิธีฌาปนกิจดังกล่าว
วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี รมช ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
รมช เกษตร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กำชับกรมฝนหลวงฯ ทำฝนเทียมต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร ร่วมกันพัฒนาแหล่งน้ำ
ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตรเฉพาะกิจ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี โดยมี นายปิยพงษ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี เขต 2 นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 พลตรีสิรภพ ศุภวานิช รองเจ้ากรมการทหารช่าง ผู้เทนเจ้ากรมการทหารช่าง พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อนปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตรของพี่น้องเกษตรอย่างเร่งด่วน ชาวสานลำไย และสวนทุเรียน ประสบปัญหาภัยแลังอย่างหนัก แดนร้อนจัด ขาดน้ำรด ส่งผลให้ ผลไม้จำนวนมากยืนต้นตาย ผลที่ออกมาดก แต่ขายไม่ได้
ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ได้มีข้อสั่งการในวาระการลงพื้นที่ตรวจราชการ เมื่อวานที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการแก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว สนับสนุนรถบรรทุกน้ำขนาดความจุ 6,000 ลิตร เพื่อแจกจ่ายพี่น้องเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่ สร้างทำนบชั่วคราว เพื่อกักเก็บและชะลอน้ำบริเวณแม่น้ำลำภาชี การปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.ราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง การสำรวจแหล่งน้ำขนาดเล็กนอกเขตชลประทาน เพื่อขุดลอกและพัฒนาพื้นที่ให้พร้อมต่อการใช้งาน และ การสำรวจความเสียหายด้านพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ประกาศเขตภัยแล้ง เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนการบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำลำภาชี จ.ราชบุรี ประกอบด้วย โครงการอาคารทดน้ำบ้านครูเทียน ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และโครงการทำนบดินพุส้มป่อย ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ต่อไป
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร กล่าวว่า ในภาคตะวันตกภัยแล้งจะรุนแรงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แทบทุกพื้นที่ ในนามตัวแทนของกระทรวงเกษตรฯ ขอเน้นย้ำให้พี่น้องเกษตรกรเชื่อมั่นว่าในทุกความเดือดร้อนที่ทุกท่านได้เสนอมา จะแก้ใขทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่ประชุมวันนี้ได้กำชับ กรมฝนหลวงฯ เพิ่มเติมให้มีการปฏิบัติการทำฝนเทียมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้มากที่สุด นอกจากนี้ รมว.ธรรมนัส ได้เน้นย้ำเสมอว่า ในการทำงานเพื่อพี่น้องเกษตรเราจำเป็นจะต้องมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาคท้องถิ่น ภาคประชาชน รวมถึงภาคเอกชน เพื่อร่วมกันหาทางออกที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกฝ่ายอย่างดีที่สุด
วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี นายกรัฐมนตรีเข้าพื้นที่สั่งช่วยเหลือภัยแล้งเกษตรกร
นายกรัฐมนตรีเข้าพื้นที่ส่งช่วยเหลือภัยแล้งเกษตรกรทหารบูรณาการร่วมกัน ปล่อยขบวนยุทโธปกรณ์รถน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภัยแล้งวิกฤต
ที่ค่ายบุรฉัตร กองพลทหารช่าง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มีกิจกรรมจิตอาสา โดยมีพิธีปล่อยขบวนยุทโธปกรณ์รถน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภัยแล้งวิกฤตหนักของจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ตามบัญชาของ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งได้มีดำริให้จังหวัดราชบุรี บูรณาการศักยภาพจากกระทรวงกลาโหม และภาคส่วนต่างๆ ประกอบด้วย กองทัพบกโดย กรมการทหารช่าง จังหวัดราชบุรี กองบัญชาการกองทัพไทย ประกอบด้วย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 จังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 13 จังหวัดเพชรบุรีและมณฑลทหารบกที่ 16 จังหวัดราชบุรี พร้อมรถบรรทุกน้ำจาก สำนักงานป้องกันและสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้ร่วมกันนำรถบรรทุกน้ำ กว่า 30 คัน เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือภัยแล้งในการอุปโภคและบริโภคของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
โดยมี นาย ณัชวันก์ อัลภาชน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และ พลตรี สิรภพ ศุภวานิช รองเจ้ากรมการทหารช่าง ผู้แทนเจ้ากรมการทหารช่าง และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันเป็นประธานปล่อยขบวนและเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ออกเติมน้ำบ้านเรือนประชาชน วัดและโรงเรียนห่างไกล ในพื้นที่แล้งวิกฤติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือประชาชนให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขจนถึงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง
วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
รมว.อุตสาหกรรม เปิดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพดีพร้อม
รมว.อุตสาหกรรม เปิดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพดีพร้อมมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยการเปลี่ยนชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ที่วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิด โครงการส่งเสริมทักษะอาชีพดีพร้อม โดยมีนางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นส.กุลวลี นพอมรบดี สส.เขต 1 ราชบุรี พร้อมทั้งนายปียพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน โดยมี นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวถึงโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพดีพร้อม เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ตีขึ้น ตามที่รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคงโดยมีเป้าหมายการพัฒนาและยกระดับในหลากหลายมิติ เพื่อมุ่งหวังให้ประเทศไทยหลุดพันจากกับตักรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศรายได้ มั่งคั่ง และยั่งยืน เฉพาะอย่างยิ่ง
ในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้ความสำคัญการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง โดยการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากในประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ภาคเกษตรอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า และภาคบริการของชุมชน พร้อมสร้างสมดุลกระจายความเจริญ สู่ภูมิภาค โยงกับแผ่นแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านเศษฐกิจฐานราก การดำเนินการที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับประเทศให้เป็นประเทศรายได้สูงที่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงและจะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยในอนาคต และสามารถส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งชัน สามารถพึ่งพาตนเองได้ จะช่วยก่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำและความไม่เสมอภาคตามเป้าหมายการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติ
ทางด้าน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนและพื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชน และการส่งเสริมให้ประชาชนเพิ่มทักษะสร้างอาชีพที่จำเป็น ที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยการเปลี่ยนชุมชนให้ดีพร้อมโดยบริบทของอุตสาหกรรม จึงได้จัดทำ โครงการส่งเสริมทักษะอาชีพดีพร้อมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก นำทรัพยากรฐานธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาใช้ประโยชน์ผลิตเป็นสินค้าและบริการ ตลอดจนสามารถนำองค์ความรู้และทักษะที่ได้ไปต่อยอดเพื่อประกอบธุรกิจ นำไปประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ในอนาคตทำให้สามารถมีรายได้เสริมพึ่งพาตัวเองได้ ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเพื่อพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะตรวจราชการ ทัวร์นกขมิ้น
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะตรวจราชการ ทัวร์นกขมิ้นที่จังหวัดราชบุรีดูการเกษตรและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะ เดินมาตรวจราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ด้าน สถานการณ์การซื้อขาย ราคาผลิตผลทางการเกษตร การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนพบปะประชาชนชาวเกษตร และหารือประเด็นปัญหาในพื้นที่และการพัฒนาจังหวัดโดยจุดแรกคือตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี หรือ ตลาดศรีเมือง มีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เขต 4 ราชบุรี พรรค รทสช. พร้อมส่วนราชการ และประชาชนให้การต้อนรับ ตลาดศรีเมืองถือเป็นหนึ่งในเเหล่งวัตุดิบอาหารปลอดภัยของไทย ก่อตั้งขึ้นประมาณกลางปี พ.ศ.2537 โดยขณะนั้นมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กโกรคอมเมอร์ส กรุ๊ป จำกัด ได้ซื้อที่ดินจำนวน 27 ไร่ พัฒนาเป็นตลาดค้าส่งพืชผลทางการเกษตร โดยได้รับการส่งเสริมจากจังหวัดราชบุรี สำนักงานการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานเกษตรจังหวัดให้เป็น"ตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี "เป็นตลาดกลางแห่งที่ 19 ของประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัท แอ็กโกรคอมเมอร์ส กรุ๊ป จำกัด(ตลาดศรีเมือง) ได้ขยายพื้นที่กว่า 300 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่เพื่อขยายพื้นที่ ให้กลุ่มผู้ประกอบการอีกจำนวนมาก เช่น อาคารค้าส่งผัก, อาคารพืชไร่, ผักต่างประเทศ, ลานเกษตรหมุนเวียน, อาคารจอดรถซื้อ, อาคารปลาสวยงาม,ไม้ดอกไม้ประดับ รวมทั้ง อาคารพาณิชย์
ช่วงบ่ายที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดราชบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เข้าประชุมหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาจังหวัดราชบุรี โดยมีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมส่วนราชการ รัฐวิสสสาหกิจ และภาคเอกชนเข้า ร่วมประชุม พร้อมบรรยายสรุปโครงการ แผนงานที่ต้องการผลักดัน และปัญหาความต้องการของพื้นที่ หลังจากนั้นได้ เดินทางเข้าเยี่ยมชมและหารือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ที่โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 1 ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 98 ฝั่งขาเข้าเมืองราชบุรี เป็นหนึ่งในโรงโอ่งเก่าแก่ ทีส่งขายโอ่งดินเผา-โอ่งเซรามิคในประเทศไทย รวมถึงส่งขายออกไปทั่วโลก ที่การันตีด้วยรางวัลสินค้า OTOP 5 ดาว และยังเปิดโรงงานให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่สนใจได้เข้าชมทุกขั้นตอนการทำโอ่งมังกรและการทำเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่การปั้น ติดลาย เคลือบ และเตาเผา ปัจจุบันยังมีการพัฒนารูปแบบเป็นงานเซรามิคแนวโมเดิร์น ลายคราม และของที่ระลึกลวดลายทันสมัย
และปิดท้ายทัวร์นกขมิ้น จ.ราชบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางเยี่ยมชมอุทยานหินเขางู อ.เมือง จ.ราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธาณะสุข และ นส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี เขต 1 พรรค รทสช.ให้การต้อนรับ โดย นายสมภูมิ ไวกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเขางู บรรยายสรุปการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ คือภูผาแรด ตั้งอยู่ในอุทยานหินเขางู ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี แต่เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของไทยหลังจากยกเลิกสัมปทานการระเบิดหินแล้ว เขางูกลายเป็นเหมืองร้าง มีสภาพทรุดโทรม จึงได้ร่วมกันพัฒนาเขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงภูผาแรดแห่งนี้ด้วย และเปิดให้เข้าชมฟรี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)