บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี โครงการพระราชดำริด้านสมุนไพรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
จัดโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทรงส่งเสริมให้แต่ละท้องถิ่นรู้จักสรรพคุณของพืชสมุนไพร และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์และดำเนินชีวิตใกล้ธรรมชาติยิ่งขึ้น
ที่ห้องประชุมศาลาประชารวมใจ เทศบาลเมืองราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ตามพระปณิธานของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี นส.ทัธนา สุวรรณชัย ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการดำเนินงาน โครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทรงส่งเสริมให้แต่ละท้องถิ่นรู้จักสรรพคุณของพืชสมุนไพร และสามารถนำสมุนไพรพื้นบ้านในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ ทำให้เห็นคุณค่าและกลับมาดำเนินชีวิตใกล้ธรรมชาติยิ่งขึ้น เกิดความภาคภูมิใจในมรดกทางปัญญาเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน
สำหรับโครงการพระราชดำริด้านสมุนไพร ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการใช้สมุนไพรและต้องการสานต่อพระปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหาได้ง่าย ในท้องถิ่นมาใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่โบราณ สามารถรักษาโรคบางชนิดได้โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดมีราคาแพง ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง และอาจหาซื้อได้ยาก แตกต่างจากสมุนไพรพื้นบ้าน ที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไป โดยมีทั้งกลุ่ม อสม. แกนนำชุมชน ประชาชนทั่วไป กว่า 140 คนให้ความสนใจเข้ารับการอบรมเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชุมชนและในครัวเรือนต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น