บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
ราชบุรี เจ้าบ่าวขี่ควายพิสูจน์รัก
เอาแล้วงานนี้ไปลุ้นเจ้าบ่าวจะส่อเค้าอนาคตต้องไปเลี้ยงควาย หรือ จะตกถังข้าวสาร เพราะเจ้าสาวยืนกราน ถ้าแต่งกับฉันต้องขี่ควายเป็น เพราะที่บ้านเลี้ยงควาย
พาไปชมความน่ารักของคู่บ่าว สาว ย้อนอดีตการพิสูจน์รักแท้กันก่อน ถึงจะสมหวังในความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ อยู่ที่ ต.ป่าไก่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี แถวนั้นจะเรียกกันว่า “ รีสอร์ทบ้านควายชมพู ” มีการจัดงานมงคลสมรส ระหว่าง นางสาวศุภิสรา พงค์สกุล และนายธนากรณ์ วงศ์หลวง พ่อ แม่ ฝ่ายเจ้าสาวได้เชิญแขกมาร่วมงานแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวจำนวนมาก โดยบ้านฝ่ายเจ้าสาวเปิดเป็น รีสอร์ท “ บ้านควายชมพู ” เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงตั้งอยู่ชายทุ่ง กับทุ่งนาที่เขียวขจีดูเป็นธรรมชาติในชนบทมีน้ำจากคลองชลประทานไหลผ่านหน้าบ้านสะดวกสบาย อุดมสมบูรณ์
ที่สำคัญยังที่บ้านเจ้าสาวมีการเลี้ยงควายไว้หลายตัว ทั้งควายสีเทา และสีควายชมพูที่หาดูได้ยากมาก ควายชมพูตัวนี้ชื่อว่า เจ้าอั่งเปา เป็นควายเพศผู้ ที่นายจรัญ พงค์สกุล รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบิดาของฝ่ายเจ้าสาวได้เลี้ยงไว้ ลักษณะลำตัวตั้งแต่หัวถึงขาจะมีสีขาวอมชมพูสวยงามมาก หลังเลิกงานลูกสาวก็จะมาเล่นกับเจ้าอั่งเปาด้วยความรักและผูกพันและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทำให้วันสำคัญในชีวิตครั้งนี้ ทางครอบครัวจึงนำเจ้าอั่งเปามาร่วมงาน ให้เจ้าบ่าวขี่หลังเพื่อเป็นการพิสูจน์รักแท้ ว่าเจ้าบ่าวสามารถขี่ควายได้ไหม งานนี้มีเสียงแว่วมาจากทางแขกมาร่วมงานว่า เจ้าบ่าวจะส่อเค้าอนาคตต้องไปเลี้ยงควาย หรือจะตกถังข้าวสาร เพราะเจ้าสาวยืนกราน ถ้าแต่งกับฉันต้องขี่ควายเป็นเพราะที่บ้านเลี้ยงควาย
ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวมาในชุดสูทสากลสุดหล่อ ค่อนข้างประหม่าเดินไป เดินมาอยู่รอบตัวเจ้าอั่งเปาควายชมพู คิดว่าวันนี้จะขี่เจ้าอั่งเปาไปหาเจ้าสาวได้มั๊ยน๊อ แขกก็มากันเยอะด้วย แต่แล้วก็รวบรวมความกล้าพยายามขึ้นขี่หลังเจ้าอั่งเปาเป็นผลสำเร็จ ก่อนพาเดินเข้าซุ้มประตูวิวาห์ ไปหาฝ่ายเจ้าสาวที่ยืนรอมอบช่อดอกไม้ โดยมีเพื่อน ๆ ต่างรอลุ้นให้กำลังใจ แม้ว่าควายชมพูจะดูตื่น ๆ คนอยู่บ้าง แต่มีคุณพ่อเจ้าสาวซึ่งจะคุ้นเคยกับควายตัวนี้มาก คอยสะกิดลูบจมูกควายไว้เพื่อไม่ให้ตื่นคน จนเหตุการณืผ่านไปด้วยดี
นางสาวศุภิสรา พงค์สกุล เจ้าสาว กล่าวว่า ที่บ้านคุณพ่อจะเลี้ยงควายไว้หลายตัว มีทั้งควายเผือก ควายชมพู ควายสีดำ ม้า แพะ ห่าน เราเปิดเป็นรีสอร์ทชื่อ ” บ้านควายชมพู ” จึงจะขอพิสูจน์รักฝ่ายเจ้าบ่าวว่าสามารถขี่ควายได้มั๊ย เลี้ยงควายได้เปล่า ถ้าขี่ได้ก็จะต้องจูงควายไปเลี้ยงได้ ถือว่าสามารถผ่านด่านพิสูจน์รักได้ ด้านเจ้าบ่าว กล่าวว่า ตอนแรกก็ไม่เคย แต่มาบ้านนี้ก็ต้องทำให้ได้ ช่วงแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก พอนานไปก็รู้สึกเริ่มชินแล้ว สามารถขึ้นขี่หลังได้
สำหรับบรรยากาศงานแต่งในวันนี้จึงเต็มไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน ที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร เพื่อน ๆ หลายคนมากันเป็นคู่ ทั้งหนุ่มสาว สามี ภรรยา ต่างมาขอถ่ายรูป แสดงความยินดีกับวันสำคัญของเพื่อนที่ต้องจดจำไว้ไม่รู้ลืม จากการสอบถาม นายจรัญ พงค์สกุล รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนฯ พ่อเจ้าสาว ทราบว่า เจ้าอั่งเปาควายชมพูตัวนี้ ซื้อมานานแล้วในราคากว่า 1 แสนบาท แต่ตอนนี้มีคนมาให้ราคามากกว่า 3 ล้านบาทแล้ว แต่ยังไม่ขาย เพราะผูกพันธุ์มาก สุดท้ายก็คงต้องตกเป็นสมบัติของลูก เพราะมีลูกสาวคนเดียว จึงเป็นที่มาของคำว่า เจ้าบ่าวจะส่อเค้าอนาคตต้องไปเลี้ยงควาย หรือจะตกถังข้าวสารกันแน่ เพราะ ควายชมพู ราคาถึง 3 ล้าน และยังมีอีกหลายตัวด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น