บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นักโทษเรือนจำกลางราชบุรีก่อจลาจล

นักโทษเรือนจำกลางราชบุรีก่อจลาจล ผลตาย 2 เจ็บอีกนับไม่ถ้วน
             เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 ก.พ. 54
เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุของสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางราชบุรี
ว่า ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนักโทษก่อจลาจลภายในเรือนจำ
ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อาคเนย์  แดงด้อมยุทธ์  ผกก.สภ.เมืองราชบุรีได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอส.และเจ้าหน้าที่มูลนิธิราชานุสรณ์กว่า 100 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์แต่เนื่องจากกลุ่มของนักโทษที่ก่อจลาจลในแดน 4 นั้นมีกว่า 100 คนเจ้าหน้าที่ของกรมราชฑัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้นักโทษทที่กำลังขว้างปาข้าวของรวมทั้งขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายได้หยุดและให้ขึ้นเรือนนอนแต่มีนักโทษชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหัวโจ๊กในการก่อจลาจลในครั้งนี้ประมาณ
40 คน ยังไม่ยอมที่จะขึ้นเรือนนอนและพยายามที่จะใช้อาวุธมีดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์ต้องตัดสินใจหยุดกลุ่มนักโทษเหล่านี้ด้วยอาวุธปืน
จนทำให้มีนักโทษเสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่ต่อมาคือนักโทษชายเดชะ  จรสุข อายุ 32 ปี
นักโทษคดียาเสพติดที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม  และนักโทษชายจืดเกิดศรีเล็ก  อายุ 31 ปี  นักโทษในคดียาเสพติดและสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง   โดยมี
พล.ต.ต.เพชรัตน์  แสงไชย  ผบก.ภ.จว.ราชบุรี  นายณรงค์  พลละเอียดรองผุ้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี  นายครรลอง  ยุทธชัย  ปลัดจังหวัดราชบุรีและนายสมบูรณ์  ศิริเวช  นายอำเภอเมือง เข้าควบคุมสถานการณ์ด้วย
        จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น นายสุรชัย  พุ่มแก้วผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี  ได้เปิดเผยว่า
สาเหตุนั้นเริ่มมาจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของเรือนจำไปตรวจพบว่า รั้วลวดหนามด้านหลังของแดน 4 นั้นถูกตัดขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตั้งกรรมการสืบสวนหาคนที่มาตัดรั้วลวดหนามให้ได้ภายใน3 วัน  และในช่วงเวลา16.00 น.ของวันเดียวกันซึ่งเป็นเวลาที่นักโทษจะต้องขึ้นเรือนนอน
แต่กลับไม่ยอมขึ้น และเริ่มก่อหวอดโดยการขว้างปาสิ่งของทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักคือเริ่มการเจรจาและขอร้องให้นักโทษขึ้นเรือนนอนแต่มีนักโทษกลุ่มของผู้ตายซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 คนได้พยายามที่จะยุยงให้นักโทษคนอื่นๆไม่ให้ทำตามเจ้าหน้าที่และยังเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงทำให้ต้องใช้มาตรการหนักคือวิสามัญเพื่อหยุดการกระทำของกลุ่มนักโทษเหล่านี้ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกตั้งแต่ย้ายเรือนจำกลางจากในตัวอำเภอเมืองมาอยู่ที่หมู่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมือง  เกือบสิบปีแล้ว
ส่วนนักโทษที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ได้ทำการแยกกักขังและจะได้ทำการสอบสวนเพื่อลงโทษสถานหนักต่อไป

9 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 พฤษภาคม 2554 เวลา 15:18

    ทุกท่านทำดีแล้ว ไอ้พวกนี้ต้องจบแบบนี้ อยู่ข้างนอกดีๆไม่ชอบ

    ตอบลบ
  2. บางครั้งคนเรามีการผิดพลาดได้ฉะนั้นเราต้องให้โอกาสพวกเค้านะห้ามซ้ำเติมนิสัยไม่ดีพวกชอบซ้ำเติมคนอื่นเค้า

    ตอบลบ
  3. คนเราอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำความผิดก็ได้แต่พวกเค้ายอมรับผิดแล้วควรให้กำลังใจพวกเค้ามากกว่าซ้ำเติมอีกนะค่ะ

    ตอบลบ
  4. นู๋เป็นคนหนึ่งที่เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกนักโทษดีค่ะว่าลำบากแค่ไหนที่ไม่ได้เจอครอบครัวและอยู่กับครอบครัวน่าสงสาร

    ตอบลบ
  5. คิดว่าน่าจะปล่อยตัวนักโทษที่ทำความดีมานานแล้วตั้งแต่ชั้นดีและชั้นดีมากขึ้นไปให้เป็นอิสระและออกมาสร้างชีวิตใหม่ได้แล้วสินปีนี้54นี้เพื่อพ่อหลวงของเรา

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ3 มกราคม 2555 เวลา 21:41

    เราก้อตต้องขอบคุนทุกคน ทีมั่ยลังเกลีจคนที่ติดคุก
    เพราะคนที่ติดคุกนั้นน่าสงสานมากๆเลย ที่ทุกวันพวกเขา
    นั้นได้แต่นั่งดูแต่ผูเขาอะ เราก้อคนหนึ่งทีเคยติดคุก

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ19 มีนาคม 2555 เวลา 13:43

    คนทำผิดต้องรับผิดมันของแน่ แต่ไอ้พวกบ้าอำนาจอย่างผู้คุมบางคนก็ชอบข่มเหงคนข้างในก้ดีแต่เก่งกับนักโทษ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ13 ธันวาคม 2566 เวลา 22:28

    คิดถึงบังเดี๋ยว

    ตอบลบ