บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ผู้เลี้ยงกุ้งรวมตัวฟ้องศาลปกครอง

ผู้เลี้ยงกุ้งในหลายจังหวัดรวมตัวฟ้องศาลปกครอง

หลังรัฐบาลสั่งให้ระงับการเลี้ยง ตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งขาว (แวนาไมค์) ในจังหวัดราชบุรี  นครปฐม  เพชรบุรี  กาญจนบุรี  สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร  กว่า 300 คน ได้มารวมตัวกันที่บ้านเลขที่ 80/1 หมู่ 6 ต.ดอนใหญ่  อ.บางแพ  จ.ราชบุรี  เพื่อร่วมลงชื่อในการฟ้องศาลปกครอง และยื่นหนังสือคัดค้าน หลังนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ   ได้มีคำสั่งให้ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่น้ำจืด ให้มาเป็น ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ซึ่งจะทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งขาวได้รับความเดือดร้อน เพราะจะต้องเลิกเลี้ยงภายใน 120 วัน ซึ่งภายหลังมีคำสั่งการระงับออกมา  ผู้เลี้ยงกุ้งที่มารวมตัวในวันนี้นั้นนอกจากจะมาลงชื่อฟ้องศาลปกครองแล้ว ก็ต้องมาฟังคำชี้แจงจากแกนนำในการนัดรวมตัว โดยมีนายยศวัจน์   ชัยวัฒนสิริกุล  กรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  และนายประกอบ  ทรัพย์ยอดแก้ว  ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งขาวได้ออกมาเชิญชวนให้ผู้เลี้ยงกุ้งทั้งหมดได้มาร่วมลงชื่อและอาจจะรวมตัวประท้วงที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ถ้าผลการคัดค้านนั้นยังไม่ได้ผล  โดยมีนายณรงค์  พลละเอียด  รองผู้ว่าราชการจังหวัด  นายสุรเชษฐ์  สุนทรศาสตร์  ประมงจังหวัดราชบุรี และนายพิพัฒน์  ศรีเพชรพันธุ์  นายอำเภอบางแพ  มาร่วมรับฟังคำชี้แจงของแกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งด้วย
          โดยนายจรูญ  อกอุ่น  อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276  หมู่ 6  ต.สระพังลาน  อ.อู่ทอง  จ.สุพรรณบุรี  ซึ่งเดินทางมาร่วมลงชื่อในครั้งนี้ก็กล่าวว่า  ตนมีอาชีพเลี้ยงกุ้งมากว่า 16 ปี แล้ว แต่จู่ๆรัฐบาลก็มีคำสั่งให้เลิกเลี้ยง ทำให้ตนกับครอบครัวรวมทั้งผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศกว่า 55 จังหวัด นั้นเดือดร้อนมาก เพราะสิ่งที่ลงทุนไปแล้วใครจะรับผิดชอบ หนี้สินที่ไปกู้มาลงทุนนั้นก็ยังต้องใช้ แล้วจะมีใครมาช่วยเหลือ และไม่รู้ว่าจะไปประกอบอาชีพอะไร แล้วครอบครัวจะอยู่อย่างไร อยากวอนรัฐบาลให้เห็นใจผู้เลี้ยงกุ้งด้วย เพราะประกอบอาชีพนี้มานานแล้วไม่มีอาชีพสำรอง ถ้าเลิกเลี้ยงก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร และยืนยันว่าน้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งนั้นไม่ได้สร้างมลพิษในดิน ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน
        ด้านนายประกอบ  ทรัพย์ยอดแก้ว  แกนนำกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งขาว ในพื้นที่อ.บางแพ  กล่าวว่า ในพื้นที่อ.บางแพ จ.ราชบุรี มีเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งเกือบ 2,000 ราย พื้นที่เลี้ยงกว่า 20,000 ไร่ ที่ผ่านมารัฐบาลก็เคยมีคำสั่งไม่ให้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่น้ำจืด ซึ่งปัจุบันเปลี่ยนระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด   เคยร้องขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเลี้ยงกุ้งหรือไม่  ซึ่งก็มีการตั้งขึ้นและมีการอนุมัติงบประมาณลงมาแล้ว  แต่ผลการตรวจสอบก็ยังไม่ทันออกมาว่ามีผลกระทบหรือไม่ ก็มีคำสั่งระงับห้ามเลี้ยงออกมาแล้ว  แล้วอย่างนี้ผู้เลี้ยงกุ้งจะทำอย่างไร ครอบครัวก็ไม่รู้ว่าจะกินอะไร  ทั้งที่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทุกคนก็ยืนยันว่า การเลี้ยงกุ้งขาวนั้นไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเราสามารถปลูกพืชผักอื่นๆบริเวณรอบๆบ่อกุ้งได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มาตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอด ซึ่งผลก็ไม่มีผลกระทบ แต่การที่รัฐบาลมาประกาศระงับไม่ให้เลี้ยงโดยไม่เคยลงมาดูพื้นที่จริงเลย ทำให้พวกเรารู้สึกว่าถูกรังแก และถูกกลั่นแกล้ง  แล้วอย่างนี้จะให้ไปประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายหรือก็เราไม่สามารถประกอบอาชีพที่สุจริตได้  อยากวอนให้หน่วยงานลงมาดูความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับพวกกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งบ้าง และกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก็จะต้องหาที่พึ่งซึ่งก็คือศาล ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกลุ่มเกษตรกรผุ้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ

4 ความคิดเห็น:

  1. เสียงสะท้อนจากประชาชน คือแรงผักดันของการพัฒนาประเทศ อย่าเอาเสียงเพียงเสียงเดียว มาสั่งประชาชนทั่วประเทศ เพราะเสียงสะท้อนกลับคือความวุ่นวายที่จะตามมา

    ตอบลบ
  2. นี่คือเรื่องจริงที่นายกยังขาด คือการตรวจสอบความจริง อยู่ๆ มาสั่งระงับการเลี้ยงกุ้ง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ จะให้ประชาชนอย่างเราอยู่นิ่งได้อย่างไร เพราะนายกไม่เคยลงมาตรวจสอบ หรือไม่ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อนที่จะมีคำสั่งให้ระงับการเลี้ยงกุ้งหากพื่นที่ใดมีปัญหาจริงก็ให้เป็นพื้นที่ควบคุม ส่วนพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบก็คงให้เลี้ยงต่อได้ ประชาชนอย่างเรายินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่นี้ยังไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเลย สั่งระงับก่อนแล้วจะให้ประชาชนอย่างเราอยู่เชยได้อย่างไร เพราะเราคือผู้เดือดร้อน

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16 เมษายน 2554 เวลา 21:07

    คนที่ออกมาประท้วงและมาเลี้ยงกุ้งในเขตบางแพเป็นคนที่อื่นปล่อยน้ำเสียลงสุ่คลองมาช้านานส่วนราชการก็เงียบ เพราะมีเงินให้อำเภอบางแพจัดงานวันกุ้งทุกปี เหมือนตลาดนัดเลิกจัดเถอะชาวบางแพเขาเบื่อ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ18 กรกฎาคม 2554 เวลา 06:03

    มันไม่จริงได้รองมาดูจริง ๆ กับเขาหรือเปล่าว่าน้ำมันเสียเพราะการเลี้ยงกุ้งของคนบางแพถ้าน้ำมันเสีย เพราะการเลี้ยงกุ้งจริง ๆ ทำไมเขายังปลูกผักกันตามคันบ่อกุ้งกันอยู่เลยและยังมีสวนผักที่อยู่ใกล้ ๆ บ่อกุ้งอีกหลายสวน

    ตอบลบ