ชาวบ้านร้องถูกปิดทางเข้าออกทำให้เดือดร้อน ทั้งที่เส้นทางนี้ใช้มากว่า 30 ปีแล้ว
วันที่ 22 ธ.ค. 59 ชาวบ้านในหมู่ 4 ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในกว่า 20 ชีวิต
นั้นเดือดร้อนเพราะไม่สามารถเข้าออกได้ โดยนายวิเชียร ลิขิตกสิกุล
อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122
หมู่ 4 ต.ประสาทสิทธิ์
ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปิดเส้นทางเข้าออก
ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดเนื่องจากเจ้าของพื้นที่คนใหม่ที่มาซื้อแปลงนี้ได้ทำการปิดเส้นทางเข้าออก
ทำให้ไม่สะดวกในการที่จะเดินเข้าออกในหมู่บ้าน
โดยเฉพาะคนแก่ที่จะต้องออกมาหาหมอก็ไม่สามารถออกมาได้
ส่วนเด็กนักเรียนก็ไปโรงเรียนไม่ได้
ที่ผ่านมาก็พยายามเข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าของที่ดินที่มาทำการสร้างประตูปิดทางเข้าออกเมื่อวันที่
8 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา เพื่อขอความเห็นใจ
แต่ทางเจ้าของที่ดินก็อ้างว่า
พื้นที่ดังกล่าวนั้นได้มีการซื้อต่อมาและเป็นสิทธิของตนเอง
ถ้าใครจะเข้าออกในเส้นทางนี้จะต้องเสียเงินหลังละ 50,000 บาท
และค่าเช่าเป็นรายปีๆละ 2,000 บาท
ซึ่งตนเองกับชาวบ้านนั้นหาเช้ากินค่ำไม่มีเงินจะไปจ่ายให้ ทั้งที่ถนนเส้นนี้ได้มีการใช้ร่วมกันมากว่า 30
ปี แล้ว และชาวบ้านได้ช่วยกันออกเงินในการซ่อมสร้างถนนในช่วงที่ถนนนั้นพัง
และบางครั้งทางเทศบาลตำบลประสาทสิทธิ์ก็นำเงินงบประมาณเข้าช่วยซ่อมถนนด้วย แต่เมื่อที่ดินแปลงนี้มีการเปลี่ยนมือ
เจ้าของที่ดินคนใหม่ก็ทำการถมถนนขึ้นมาใหม่และทำการสร้างประตูปิดทางเข้าออกทำให้ชาวบ้านนั้นเข้าออกไม่ได้
ต้องแอบเดินเลี่ยงด้านข้างถนนโดยผ่านที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีระยะทางเกือบครึ่งกิโลเมตร รถไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้ต้องเดินอย่างเดียว
และถ้าจะออกไปไหนต้องแอบเดินออกไปตั้งแต่เช้ามืดและกลับในช่วงค่ำๆเพื่อไม่ให้เจ้าของที่เห็นเพราะกลัวว่าจะถูกเขาฟ้องว่าบุกรุกที่ดิน
ที่ผ่านมาก็ได้ไปร้องเรียนกับทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดำเนินสะดวกแล้ว และก็ให้มีการไกล่เกลี่ยกันเอง
แต่ทางเจ้าของที่ดินก็ยังยืนยันที่จะให้จ่ายเงินค่าผ่านประตูให้ จึงอยากขอความเป็นธรรมกับทางหน่วยงานราชการอื่นให้มาช่วยชาวบ้านด้วย
เพราะชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ
ด้านนายสมอาจ บุญเพ็ง อายุ 81 ปี
อดีตผู้ช่วยกำนันตำบลประสาทสิทธิ์
ก็บอกว่า ถนนเส้นนี้ชาวบ้านใช้มากว่า 30 ปี แล้ว
ในช่วงที่เป็นผู้ช่วยกำนันก็เคยมาช่วยชาวบ้านซ่อมแซมถนน แต่ต่อมาที่ดินแปลงนี้ถูกขายมาเป็นทอดๆ
และเจ้าของที่ดินคนใหม่ก็ทำการปิดเส้นทางเข้าออก ส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อน
ส่วนนายพุฒิชัย สำราญจิต อายุ 47 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 5 ต.ดอนมะโนราห์
อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม ซึ่งมาซื้อที่ดินในบริเวณดังกล่าวเพื่อทำสวนมะพร้าว
เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ก็บอกว่า
เดิมนั้นเส้นทางนี้มีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามาซื้อที่ดินในหมู่บ้านเพราะเห็นว่ามีทางเข้าออก
และเคยออกเงินช่วยในการซ่อมแซมถนนหลายครั้ง
แต่จู่ๆเจ้าของที่ดินคนใหม่ที่มาซื้อก็ทำการถมพื้นถนนขึ้นมาใหม่และทำประตูปิดทางเข้าออกทำให้ตนเองนั้นเข้าไปดูแลสวนมะพร้าวไม่ได้เลย
ต้องปล่อยให้รกร้าง
จึงอยากขอความเห็นใจจากเจ้าของที่ดินให้ช่วยเปิดทางให้ชาวบ้านได้ใช้บ้าง หรือขอให้หน่วยงานภาครัฐได้ช่วยลงมาตรวจสอบด้วยว่าเส้นทางดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางสาธารณะหรือไม่
หรือจะต้องให้ชาวบ้านได้ช่วยซื้อกุญแจดอกละ 50,000 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น