บทความที่ได้รับความนิยม
-
เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดตากแดดชมรมแอโรบิคประสพความสำเร็จไปแข่งขันระดับประเทศขาดชุดหมดทุนขอรับบริจาค วันที่ 6 มกราคม 2560 ท...
-
พร้อมเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (เปลือกมะพร้าว) นายจตุพร โสภารักษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (โรงไฟฟ...
-
ผู้ว่าราชบุรีจับมือผู้ว่าสมุทรสงครามเปิดงานตลาดถนนเพลินเพลง หรือตลาดน้ำ 3 อำเภอ เป็นการฟื้นฟูตลาดน้ำเก่าเพื่อช่วยเหลือเพิ่มช่องทางให้ผู้ประก...
-
อดีต รมช.คมนาคมพาชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน อุ้มหายตัวไป ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็ บ ...
-
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมตำรวจ นำหนุ่มที่ถูกผู้ใหญ่บ้านอุ้มไปจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวน วันที่ 1...
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553
รับคนชราไร้ญาติมาดูแล
ในวันนี้( 21 ส.ค.53) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีสองผัวเมียผู้ใจบุญนำคนป่วยและชราภาพที่ไม่มีญาติมาดูแลตามโรงพยาบาลนำมาดูแลเองที่บ้านศิริวัฒนธรรม เลขที่ 66 หมู่ 6 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ขณะนี้มีผู้ป่วยและคนชราอยู่ในความดูแล เกือบ 20 คน และขณะนี้สถานที่นี้กำลังขาดแคลนอุปกรณ์หลายอย่าง ในการดูแล และวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด่วน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปบ้านดังกล่าว พบว่าสภาพบ้านเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง มีเตียงนอนเรียงรายเกือบ 20 เตียง แต่ละเตียงจะมีคนชรานอนอยู่เต็มทุกเตียง นอกจากนี้ยังได้พบกับนางสาวนารี นีสันเทียะ อายุ 38 ปี และนายกล้า ศิริวัฒนธรรม อายุ 30 ปี สองผัวเมียที่เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว กำลังทำการดูแลและพยาบาลคนชราที่นอนอยู่บนเตียงนอน โดยนายกล้า ได้เล่าให้ฟังถึงความเป็นที่นำคนชราและคนป่วยมาดูแลว่า ในอดีตนั้นนางสาวนารีซึ่งเป็นภรรยามีอาชีพรับจ้างดูแลคนป่วยที่โรงพยาบาลดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก โดยคิดค่าเฝ้าดูแลวันละ 300 บาท ทำมาเป็นเวลา 4 ปี ส่วนตัวเองนั้นประกอบอาชีพทำไก่สดส่งขายตามตลาด ส่วนผู้ป่วยที่ภรรยาไปดูแลแต่ละรายส่วนใหญ่เป็นคนชราและช่วยตัวเองไม่ได้ บางคนเป็นแผลเรื้อรัง และเมื่อดูแลไปนานวันญาติผู้ป่วยก็หายไปและไม่มาเยี่ยมผู้ป่วยเลย เมื่อไม่ได้รับค่าจ้างและคนป่วยเองก็ไม่มีใครดูแลด้วยความสงสารจึงได้มาปรึกษาว่าจะนำมาดูแลเองที่บ้าน โดยได้ประสานกับทางโรงพยาบาลดำเนินสะดวก เนื่องจากเกรงว่าจะมีญาติมาติดต่อก็จะได้ติดตามไปรับผู้ป่วยได้ที่บ้าน นอกจากนี้ยังเป็นการลดภาระของโรงพยาบาลด้วย เริ่มแรกก็ลงทุนซื้อเตียงนอนให้เพียงแค่ไม่กี่คนต่อมามีคนทราบข่าวว่า มีสถานที่รับดูแลผู้ป่วยที่เป็นคนชรา จึงมีคนนำมาให้ดูแลเพิ่มอีกบางรายที่นำมาให้ช่วยดูแล เมื่อมีอาการดีขึ้นก็จะมารับกลับไป ซึ่งจะหมุนเวียนมาอย่างนี้ แต่ก็จะมีบางรายที่ในช่วงแรกๆญาติก็จะมาเยี่ยมเยียนและส่งข้าวของและเงินทองให้บ้างต่อมาก็หายเงียบไป แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตไปบ้างแล้วแต่ก็ไม่มีญาติมาติดต่อ จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ทำหน้าที่ดูแลบุคคลเหล่านี้มา ส่วนตนเองก็ต้องเลิกอาชีพทำไก่สดส่งขายและมาช่วยภรรยาดูแลคนชราเหล่านี้ ตอนนี้มีสมาชิกที่เป็นคนชราเพิ่มเกือบ 20 คนแล้ว แม้ว่าจะมีญาติของบุคคลเหล่านี้ที่คอยส่งเสียให้บ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ในการทำแผลเนื่องจากหลายคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องนอนซมอยู่บนเตียง จึงเกิดแผลกดทับ จึงต้องคอยทำความสะอาดแผลให้ตลอดเพื่อไม่ให้ลามไปที่อื่น และยังมีค่าน้ำค่าไฟ ทำให้ เงินทองที่สะสมเอาไว้ก็หมดลง จะกลับไปทำอาชีพเดิมก็ไม่ได้ เพราะเราทิ้งเขาไม่ได้ เราต้องดูแลอย่างไกล้ชิดและสังเกตอาการเกือบทุกชั่วโมง ต้องวัดความดัน ต้องให้อาหาร น้ำดื่ม ดูเลทำความสะอาดเมื่อผู้ป่วยขับถ่าย หรือเมื่อมีอาการผิดปกติต้องเรียกหมอที่อนามัยใกล้บ้านมาดูแล หากบางรายอาการไม่ดีต้องรีบส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นลูกหลานให้กับบุคคลเหล่านี้โดยการพูดคุย เล่าเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์รวมทั้งใช้ธรรมะมาช่วยในการดูแลโดยการเปิดเทปเพลงธรรมะบ้าง เทปพระเทศน์บ้าง จึงทำให้ในทุกวันไม่เคยได้ว่างเว้นเลยเพราะต้องหมุนเวียนทุกเตียงเพื่อให้ครบทุกคน ซึ่งการดูแลนั้นก็ทำเท่าที่ตนกับภรรยาจะทำได้ และตอนนี้ก็มีอาสาสมัครมาช่วยดูแลอีกหนึ่งคน ซึ่งบางทีก็ให้ค่าตอบแทนบ้างแล้วแต่ว่าจะมีแค่ไหน
นายกล้ายังกล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ตนกับภรรยาทำนั้นไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรกับญาติผู้ป่วยที่นำมาให้ดูแล แต่เป็นการช่วยเหลือสังคมในการดูแลผู้ป่วยด้อยโอกาสและไม่มีญาติดูแลซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนชราที่ลูกหลานไม่สนใจปล่อยทิ้งดดยไม่ได้คำนึงความรู้สึกของคนเหล่านี้ อีกทั้งช่วยเหลือผู้ป่วยที่เจ็บป่วยระยะสุดท้ายของชีวิตที่มีความทุกข์ทั้งกายและใจ เพื่อให้ผู้ป่วยที่ชรามีความรู้สึกมั่นใจ อบอุ่นใจว่าไม่ถูกสังคมไทยทอดทิ้ง
และอยากเป็นคนต้นแบบ ที่มีแบบอย่างให้สังคมรับทราบและปฏิบัติตาม โดยเน้นชีวิตที่มีคุณค่า แต่เนื่องจากปัจจุบันหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล หรือ อบต.ได้ติดต่อที่จะนำคนชรามาให้ดูแลมากยิ่งขึ้น ส่วนทุนทรัพย์ที่ได้จากการบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ ก็ยังไม่พอเพียงกับค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับการดูแลคนชราที่ป่วยเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตให้ดีมีคุณภาพ ถึงแม้จะเหนื่อยยากลำบากเพียงใด ตนและครอบครอบครัวขออุทิศตนทำงานนี้เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป
หากท่านใดจะไห้ความช่วยเหลือ หรือจะบริจาค ชื่อบัญชี นายกล้า ศิริวัฒนธรรม นางบุษยา แซ่อุ่น เลขบัญชี 707-0-13698-6 ธนาคารกรุงไทยสาขาดำเนินสะดวก
ติดต่อสอบถาม นายกล้า โทร. 083-5590526
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น