บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อบต.คุ้งกระถินแจงโดนใบปลิวชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ

นายก  อบต. คุ้งกระถินออกชี้แจงชาวบ้านถูกใบปลิวโจมตีพร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีชาวบ้านในพื้นที่แห่ให้กำลังใจ
 
 ที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งกระถิน  อำเภอเมือง  จังหวัดราชบุรีมีชาวบ้านในตำบลกว่า 300 คน ได้เดินทางมาให้กำลังใจการทำงานนายสุวัฒน์  อมรธีระกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งกระถิน  กับ สิบเอกผกาพรรณ  ต้นสอน ปลัดอบต.คุ้งกระถิน พร้อมทั้งมอบช่อดอกไม้ ให้กำลังใจอย่างท้อแท้  โดยหลังมีการนำใบปลิวโจมตีการทำงานโดยในข้อความกล่าวหาทั้งสองคนในลักษณะชู้สาวและโจมตีการทำงานของอบต.คุ้งกระถิน ให้เกิดความเสียหาย    สำหรับใบปลิวได้มีการโจมตีการทำงาน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเสียหาย  
                   ทาง  อบต.คุ้งกระถิน  เน้นการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมของประชาชนทำงานแบบเชิงรุก รับทราบปัญหาในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยมีส่วนร่วมในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถตรวจสอบการทำงานทุกอย่างที่โปร่งใส สร้างความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตของประชาชนในตำบลที่ดีขึ้น ที่สำคัญจะทำงานให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของชาวบ้านทุกคน

             ทางด้าน นายสุวัฒน์  อมรธีระกุล  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งกระถิน กล่าวว่า ได้ร่วมกับ สิบเอกผกาพรรณ ต้นสอน ผู้ถูกหมิ่นประมาท ในทางที่เสียหาย จึงได้ไปแจ้งความกับ พ.ต.ท. จิระยุ คชประดิษฐ์  ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบผู้นำข้อความดังกล่าวไปลงทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับใบปลิวและข้อมูลข่าวสารที่ลงเฟซบุ๊คของผู้ที่ใช้ชื่อว่า วี ฟอร์ ราชบุรีมีสมาชิกในเพจประมาณ 6,723 คนและมีสมาชิกในเพจ แชร์ข้อความดังกล่าวประมาณ 37 ราย (ข้อมูล ณ วันที 21 กุมภาพันธ์2557 )  ที่เชื่อว่าไม่มีจรรยาบรรณของสื่อที่ดี จ้องจะทำร้ายองค์กร โดยไม่ใส่ใจที่จะสอบถาม ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 มีบุคคลที่ไม่หวังดีได้ทำการพิมพ์ข้อความใบปลิวและโปรยใบปลิวตามท้องถนนในเขตตำบลคุ้งกระถินและตำบลใกล้เคียง ในข้อความกล่าวหาผมและปลัดอบต.คุ้งกระถินและโจมตีการบริหารงาน  การกระทำดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง และทำให้อบต.เกิดความเสียหาย จึงได้ดำเนินการเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด ภายใน 30 วันนับแต่แจ้งความ ถ้ายังไม่มีผลความคืบหน้าจะนำมวลชนประมาณ 500 คน ไปทวงถามความคืบหน้าที่สถานีตำรวจอีกครั้ง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น