บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อุโบสถวัดโรงช้างราคากว่า 50 ล้านพื้นปูนและเสาแตกร้าว


อุโบสถวัดโรงช้างราคากว่า 50 ล้านพื้นปูนและเสาแตกร้าวเกรงจะเกิดทรุดตัวลง
    นายณรงค์   ครองชนม์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี      นายศิริศักดิ์  ตาลบำรุง    นักวิชาการชำนาญการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี   พร้อมด้วยพระครูสมุหสมศักดิ์  มเหสักโข  เจ้าอาวาสวัดโรงช้าง  ตรวจสอบสภาพความเสียหายของผนังพื้น และเสาปูน  ของอุโบสถวัดโรงช้าง   ตั้งอยู่ถนนสายราชบุรี  เขางู   เขตเทศบาล     อําเภอเมือง   จังหวัดราชบุรี  ราคากว่า  50  ล้านบาท   เกิดการแตกร้าวจํานวนมาก   เนื่องจากเกิดฝนตกลงมาทําให้นํ้าซึมอยู่ใต้แผนปูนกัดกล่อนเหล็กเส้นบริเวณพื้นปูนจนเป็นสนิมเกิดการระเบิดแตกร้าวปูนแตกออกมาจํานวนมาก     สร้างความเสียหายในกับรากฐานของอุโบสถที่มีอายุประมาณ  50 กว่าปีแล้ว  ซึ่งเป็นอุโบสถเก่าแก่ของวัด  และได้มีการบูรณะใหม่เมื่อประมาณ  10  แล้ว  โดยบริเวณพื้นปูนนํ้าที่ซึมซัดเอาไว้ได้ไหลออกมาทางพนังพื้นปูนตลอดเวลา ทั้งนี้หากไม่มีการซ่อมแซมอาจจะเกิดทําให้อุโบสถทรุดตัวลงจนสร้างความเสียหายได้
                    จากการตรวจสอบฐานรากของอุโบสถดังกล่าว   พบว่ามีการแตกร้าวเสี่ยงต่อการทรุดตัว  ซึ่งทางวัดได้ให้ทางสํานักงานโยธาและฝังเมืองจังหวัดราชบุรี  ตรวจสอบเพื่อประเมินราคาในการซ่อมแซมคาดว่าประมาณ  3  ล้าน  โดยทางวัดยังไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซม   จึงขอความเมตตากับผู้ใจบุญมาร่วมกันสมทบทุนในการซ่อมแซมอุโบสถ
             พระครูสมุหสมศักดิ์  มเหสักโข  เจ้าอาวาสวัดโรงช้าง กล่าวว่า    อุโบสถหลังนี้สร้างมา  2  เจ้าอาวาสแล้ว  ปัจจุบันได้ดูแลบูรณะเป็นรุ่นที  3  ยังไม่สำเร็จเป็นรูปแบบมีอายุก่อสร้างมากว่า  50  ปีแล้ว  งบประมาณสมัยนั้นประมาณ  4  ล้านบาท   อาตมาได้จัดสร้างตั้งแต่ช่อฟ้า  ใบระกา  ซุ้มประตู  หน้าต่างบานภายนอกภายใน   พื้นระเบียงจนสำเร็จเรียบร้อยเหลือแต่กำแพงแก้วที่จะทาสีขาวจึงจะเสร็จสำบูรณ์    เปลี่ยนไฟรอบ  อุโบสถใหม่   โดยได้นักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคราชบุรีมาดำเนินการให้    จึงนำพาลงไปใต้ถุนโบสถ์เพื่อจะชี้จุดทำไฟสายเมนเข้ามาบริเวณ    หลังนำพาเด็กนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคลงไปแล้วก็ไปพบตีนเสาโบสถ์ที่แตกร้าว  จึงได้ไปขอร้องเจ้าหน้าที่โยธาจังหวัดเข้ามาตรวจสอบและดูแลซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า   เดิมสมัยก่อนจะใช้หินก้อนใหญ่มวลสารที่ก่อสร้างไม่ค่อยรัดตัวทำให้เป็นช่องโหว่ของอากาศสามารถเข้าได้  พออากาศเข้าไปนานๆเกิดสนิมกินบริเวณในเสาที่ก่อด้วยเหล็กจึงเกิดการเบ่งตัว  ก็เลยระเบิดจนปูนที่ก่อตัวเป็นเสาเกิดแตกร้าวระเบิดออก  พออากาศเข้าไปเรื่อยก็ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง  เป็นข้อมูลจากเจ้าหน้าที่โยธาจังหวัดที่ให้ข้อมูลมา    เมื่อวานก็มาแจ้งกับทางวัดว่าต้องรีบซ่อมแซมโดยเร็วช้าไม่ได้อีกแล้ว  ทางวัดก็ไม่มีเงิน  เบื้องต้นที่ได้รับแจ้งจากโยธาจังหวัดต้องใช้งบประมาณ  8  แสนบาท  จากทั้งหมดรวม 3  ล้านบาท จึงขอให้ผู้มีจิตรศรัธาร่วมบริจาคเงินซ่อมแซมอุโบสถให้คงทนถาวรให้อยู่คู่กับวัดโรงช้างต่อไป   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น