บทความที่ได้รับความนิยม
-
จังหวัดราชบุรีร่วมกันจัด “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” เมื่อมวยไทยไม่ได้เป็นแค่กีฬา แต่คือพลังขับเคลื่อนเป็นการพัฒนาเมืองในหลายมิติ ...
-
อ งค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ เทศบาลตำบลดำเนินสะดวก จัดโครงการส่งเสริมท่องเที่ยว “ท่องเที่ยววิถีใหม่ ไชน่าทาวน์ตลาดน้ำ “ยามเย็น” ...
-
ส.ส.ราชบุรี เขต 2 ราชบุรี นำเอกสารจากดีเอสไอมาชี้แจง กรณีโซเชียลพาดพิงธุรกิจเรื่องหมูเถื่อน 200 ล้าน โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำธุรกิ...
-
เวทีเสื้อแดงที่ราชบุรี แกนนำดังแห่ร่วมเพียบ กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ทยอยมาร่วมงา...
-
ตลก เทพ โพธิ์งาม ปิดตำนานตลกประกาศขายบ้านหลบความวุ่นวายมาอยู่ในไร่ในจังหวัดราชบุรีเป็นเกษตรกรทำสิ่งที่รักและมีความสุข ที่บริเวณ บ้...
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568
ราชบุรี พ่อร้องสื่อวอนช่วยลูกชายวัย 18 หายตัว ร
พ่อร้องสื่อวอนช่วยลูกชายวัย 18 หายตัว หวั่นถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชาหลังได้รับข้อความจากลูกชายขอความช่วยเหลือแล้วติดต่อไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสุริยา แจ่มน้อย อายุ 63 ปี ชาวตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี วอนสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามหาลูกชาย นายรักเด่น แจ่มน้อย อายุ 18 ปี หลังหายออกจากบ้านตั้งแต่เช้าวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยสงสัยว่าอาจถูกหลอกลวงไปทำงานกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งเข้าติดตามกับทางพนักงานสอบสวนเพื่อหาความคืบหน้า
นายสุริยาเล่าว่า ลูกชายเพิ่งสมัครเข้ารับการคัดเลือกทหารกองเกินด้วยระบบออนไลน์ประจำปี 2569 แต่ระหว่างพักอยู่บ้าน กลับหายตัวไปหลังบอกแม่ว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ ผ่านการสมัครในเพจเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าเป็นงานนั่งทำคอมพิวเตอร์ รายได้เดือนละ 18,000 บาท หากขยันมีโบนัสเพิ่มอีก 5,000 บาท ทั้งยังได้รับการโอนเงินค่าเดินทางล่วงหน้า ทำให้ลูกชายหลงเชื่อและเดินทางออกจากบ้านต่อมาลูกชายได้ส่งรูปตึกที่อ้างว่าเป็นที่ทำงาน ลักษณะคล้ายสถานอาบอบนวด รวมทั้งห้องพักเตียงสองชั้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับครอบครัว ช่วงวันที่ 20–21 ส.ค. ยังสามารถติดต่อได้ แต่วันที่ 22 ส.ค. กลับขาดการติดต่อ กระทั่งช่วงกลางดึกวันเดียวกัน แฟนสาวของลูกชายโทรมาบอกว่า ได้รับข้อความจากลูกชายขอความช่วยเหลือ ระบุสั้น ๆ ว่า “ถูกจับอยู่ที่เขมร ช่วยด้วย” ก่อนจะหายเงียบไป
ครอบครัวจึงรีบเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สถานีขนส่งกรุงเทพฯ พบว่าลูกชายถูกชายกลุ่มหนึ่งมารับขึ้นรถไปจริง แต่ยังไม่ทราบปลายทาง ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีที่โอนเงินค่าเดินทางมาให้ และประสานฝ่ายสืบสวนเพื่อติดตามเส้นทางการเดินทางต่อเนื่อง นายสุริยากล่าวด้วยน้ำตาว่า “ทุกวันผมนอนไม่หลับเลย คิดถึงลูก อยากได้ลูกกลับมาอย่างปลอดภัย” พร้อมเตรียมยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และฝากถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ให้เร่งกวาดล้างเพจหลอกลวงที่ล่อลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ เพราะเป็นภัยต่อสังคม
ทั้งนี้ นายสุริยายังฝากเตือนคนรุ่นใหม่ที่หางานผ่านโซเชียล อย่าหลงเชื่อโฆษณางานที่ดูดีเกินจริง เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เช่นเดียวกับลูกชายของตนเอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)












ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น