เกษตรกรเลี้ยงกุ้งเตรียมล่ารายชื่อยื่นถึงนายกรัฐมนตรีให้ชะลอ มติ ครม.
ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์โรงเรียนวัดลํานํ้า หมู่ที่ 6 ตําบลดอนใหญ่ อําเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ภาพกลาง ทั้งที่อําเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 200 คน ประชุมหารือ เตรียมความพร้อมในการล่าลายชื่อเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทีเห็นชอบการแก้ใขปัญหาการใช้ความเค็มการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 8 กณกฎาคม 2553 โดยปรับปรุงข้อความในคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2541 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2541จาก “ระงับการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำในพื้นที่น้ำจืด” เป็น “เพื่อระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์สัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด” ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่เลี้ยงกุ้ง โดยมีนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายอนุเดช เชี่ยวชาญวิลิตชกิจ นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้าไทย เดินทางมาร่วมรับฟังปัญหา
นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว อุปนายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้าไทย ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งคุณภาพจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า จากมติ ครม.ที่เปลี่ยน“ระงับการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำในพื้นที่น้ำจืด”เป็น “เพื่อระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์สัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด” ทําให้เกิดผลกระทบกับเกษตรผู้เลี้ยงกุ้งจํานวน 55 จังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งทั่วประเทศเริ่มประสบปัญหา เนื่องจากเป็นอาชีพดั้งเดิมที่ทํามากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งได้มีการนําเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ประยุกต์ในการเลี้ยง เช่น นํากุ้งขาวแวนาไม จากรัฐฟลอริดา และรัฐฮาวาย มาเลี้ยงผสมผสาน สามารถเพาะพันธุ์กุ้งเพสผู้ได้ทั้งหมด อีกทั้งยังปลอดสารพิษด้วย ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดที่ต้องการกุ้งตัวโต โดยเฉพาะพื้นที่อําเภอบางแพจังหวัดราชบุรี เลี้ยงกุ้ง และปลา ประมาณ 80 % ของพื้นที่ ประมาณ 3,657 ไร่ จํานวนมากกว่า 200 ราย ผลิตกุ้งได้ปีละกว่า 6,494 ตัน ส่งออกต่างประเทศปีละกว่าสองหมื่นล้านบาท
จึงขอเรียนร้องหน่วยงานภาครัฐให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหาแนวทาง ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ เนื่องจากสภาพความเป็นจริงแล้ว ไม่ตรงกับข้อมูล หากเกษตรเลี้ยงกุ้งสร้างความเดือดร้อนด้านสิ่งแวดล้อมจริง ก็สามารถมาดูได้ว่าในพื้นที่ก็มีการปลูกพืชผักทางการเกษตรบริเวณคันบ่อเลี้ยงกุ้ง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขาย และบริโภคในครัวเรือนได้ และน้ำที่เลี้ยงกุ้งในปัจจุบันก็ไม่เกินมาตรฐานที่กรมชลประทานกำหนดอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้ร่วมกันล่าลายซื่อ เพื่อยื่นเสนอต่อรัฐบาลให้ชะลอมติ ครม.ดังกล่าว และขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมลงมาตรวจสอบและวิจัยคุณภาพนํ้าว่ากระทบกับสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่ และข้อให้จบด้วยการตรวจสอบด้วย อีไอเอ ซึ่งขณะนี้ทางเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกําลังรวมตัว และเอกสารยื่นถึงนายรัฐมนตรี เพราะทุกคนไม่ต้องการที่จะไปปิดถนนประท้วงที่จะเกิดความเดือนร้อนแก่ผู้อื่น แต่การปิดถนนกระท้วงขอให้เป็นขั้นตอนสุดท้วย
นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ทางจังหวัดรับทราบปัญหาดี เมื่อมีมติ ครม.ออกมาอย่างนี้ หากประชาชนประสงค์ที่จะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีก็สามารถทําได้ เพื่อให้ท่านได้รับทราบปัญหาความเดือนร้อนที่แท้จริง แต่อย่างไปประท้วงปิดถนนจะก่อให้เกิดความเดือนร้อนผู้อื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น