เสี่ยโรงหล่อพระ เจอพิษเศรษฐกิจโควิดเล่นงาน ตัดใจค้นหาอาชีพเสริมเลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูนซีเมนต์แบบทฤษฎีใหม่ เห็นกำไรถึงกับอึ้ง เตรียมเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ช่วยผู้มีรายได้น้อยช่วงโควิด
วันที่ 20 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า นายณัฐกิตติ์ จิราธันย์ธนาดุล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356 หมู่ 5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าของโรงหล่อพระ ที่หาอาชีพเสริมในช่วงโควิด-19 หลังประสบปัญหาพิษเศรษฐกิจในช่วงโควิด ที่กำลังระบาดอย่างหนัก จนมีผลให้โรงหล่อพระไม่มีงาน หันมาเลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูนซีเมนต์แบบทฤษฎีใหม่ ภายในบริเวณบ้าน โดยศึกษาและทดลองเลี้ยงปลาสลิดอยู่ในบ่อปูนซีเมนต์จำนวน 2 บ่อ หลัง 10 เดือนผ่านไป สามารถจำหน่ายปลาสลิดหักลบค่าใช้จ่ายแล้ว กำไรกว่า 30,000 บาทต่อหนึ่งบ่อ
นายณัฐกิตติ์ กล่าวต่อ ข้อแตกต่างระหว่างการเลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูนซีเมนต์ กับบ่อดินธรรมชาติ การเลี้ยงบ่อปูนซีเมนต์เราสามารถเลี้ยงในพื้นที่บริเวณบ้านได้ ใช้เวลาดูแลน้อย และสามารถควบคุมการให้อาหาร การจับ การขายได้ ด้วยตนเอง ซึ่งจะลดต้นทุนในการผลิตอีกด้วย ถ้าเลี้ยงแบบบ่อธรรมชาติจะไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย อนาคตอาจจะขยายพันธุ์ปลาสลิดและเพาะพันธุ์ปลาสลิด เพื่อขายพันธุ์ปลา และแปรรูปอาหารจากปลาสลิด เช่น น้ำพริก ปลาแดดเดียว ฯลฯ ซึ่งเตรียมจะเปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในช่วงโควิด ให้เข้ามาศึกษา เพื่อนำไปต่อยอดช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งหากใครสนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ เพจเฟสบุ๊ค บ้านฟาร์มปลาสลิดบ่อปูนซีเมนต์ หรือโทรสอบถาม 089-6142424
ขณะที่ พ.อ.ไพรวัลย์ เอี่ยมคะนา พร้อม นายอุดม ไทยเจียมอารีย์ นายก อบต.หนองกลางนา กล่าวว่า ตนอยากจะส่งเสริมและสนับสนุน การเลี้ยงปลาสลิดให้เป็นวิสาหกิจชุมชน หลังได้เข้ามาศึกษาดูการเลี้ยงของ นายณัฐกิตติ์ ซึ่งตนมองว่าการเลี้ยงปลาสลิดบ่อปูนซีเมนต์ แบบทฤษฏีใหม่ เหมาะสมกับยุคนี้เป็นอย่างมาก คนที่มีพื้นที่น้อยก็สามารถสร้างรายได้จากตรงนี้ได้ การเลี้ยงดูแลไม่ได้ยากอะไรมากและลงทุนไม่เยอะ ตนจึงอยากสนับสนุนให้ตรงนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากมีรายได้เสริมด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น