บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

รมว.แรงงานยํ้าส่งเสริมอัตราค่าจ้าง

รมว.แรงงานยํ้าส่งเสริมอัตราค่าจ้าง
         นายเผดิมชัย   สะสมทรัพย์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เป็นประธานการสัมมนาการส่งเสริมอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  22  สาขาอาชีพ  ระดับภาค  ที่โรงแรมเวสเทริ์นแกรนด์  อําเภอเมือง   จังหวัดราชบุรี    มีนายสุเทพ  โกมลภมร  ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี   กล่าวให้การต้อนรับ  นายแพทย์สมเกียรติ  ฉายะวงศ์  ปลักกระทรวงแรงงาน  กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนา  
        เนื่องจากปี  2551  กระทรวงแรงงาน   ได้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  ว่าด้วยคณะกรรมการค่าจ้าง    เพื่อขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้าง   ให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  ซึ่งจะใช้กับนายจ้างและลูกจ้างทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าลูกจ้างนั้น  จะมีสัญชาติใด  ขณะนี้ได้ออกประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่องอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานไปแล้ว  2  ฉบับ  ครอบคลุม  22  สาขาอาชีพ  ฉบับแรกมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่  28  กรกฎาคม  2554  ฉบับที่  2   มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  6  ตุลาคม  2554  โดยราชบุรีถือว่าของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานของภาคที่รวมของ  7  จังหวัด      เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานที่สนใจจะยกระดับฝีมือแรงงาน จากไม่มีฝีมือแรงงานเลยมาถึงกึ่งฝีมือ  และพัฒนาขึ้นไปถึงแรงงานที่สมบูรณ์แบบ  ที่เรียกว่าชำนาญการ  วันนี้มีผู้เข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมาก  ทำให้ค่าครองชีพดีขึ้นตามฝีมือที่ได้รับอบรมไปแล้ว  ซึ่งอนาคตจะมีเพิ่มเติมอีก  11  สาขาอาชีพด้วย  
          นายเผดิมชัย   สะสมทรัพย์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน   กล่าวว่า  ส่วนค่าแรงตามนโยบายพรรคที่ได้ประกาศออกไประหว่างก่อนหาเสียง  ทำให้ค่าแรงของพี่น้องทั้งประเทศเป็น  300  บาท  ตามสิ่งที่เราได้ทำสัญญาประชาคมไว้   แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่สอดคล้องกัน  ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่ไม่ว่าจะเป็นราชบุรีก็จะได้รับความยุติธรรมเช่นกัน  โดยตามกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำประกอบด้วยไตรภาคีจะประกอบด้วย  นายจ้าง  ลูกจ้าง  รัฐบาลจะต้องเห็นพ้องต้องกัน  อัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นกฎหมายเหมือนในอดีตมา  ว่าทำไมต้องมีจังหวัดพะเยาที่มีค่าแรงขั้นต่ำ  159  บาท  และจังหวัดภูเก็ตที่มีอัตราค่าจ้างสูงที่สุด  และอนาคตจะมีการแข่งขันกันในเวทีการค้าโลกอย่างเข้มข้น  มีการจัดเขตการค้าเสรีกับนานาประเทศ  เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศของตนและประเทศสมาชิก  โดยไทยก็ต้องเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลก  ต้องแข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันเอง  ในปี  2558  จะเริ่มการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในภูมิภาคอาเซียนหรือ  AEC  2015  ซึ่งไทยจะสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้  จำเป็นต้องมีองค์ความรู้  เทคโนโลยี  การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ  โดยเฉพาะ  แรงงานไทย  ถือเป็นทรัพยากรมนุษย์  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการผลิตและการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  และเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่มุ่งให้มีการคุ้มครองดูแลทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้ได้รับประโยชน์  เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย  ทั้งนี้ได้มีการกำหนด  7  จังหวัดนำร่องของประเทศที่จะได้รับอัตราค่าจ้าง  300  บาทแล้ว  คือ  กรุงเทพมหานคร  จังหวัดนนทบุรี  จังหวัดสมุทรปราการ  จังหวัดนครปฐม  จังหวัดภูเก็ต  จังหวัดสมุทรสาคร  จังหวัดปทุมธานี  มีผลวันที่  1  มกราคม  ปี  2555  
            ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้มีผู้ใช้แรงงานเข้าร่วมกว่า 500 คน  พร้อมทั้งมอบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกอบด้านฝีมือแรงงานในสาขาต่าง  ๆ ด้วย
 
                  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น