บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ราชบุรี ซ้อมแผนฉุกเฉินดับเพลิง และอพยพหนีไฟ

โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ซ้อมแผนฉุกเฉินดับเพลิง และอพยพหนีไฟ สมมุติเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บน้ำมัน Tank-1D ความรุนแรงระดับ 3 ประจำปี 2568
นายสุวิทย์ชาติ นวมเพ็ชร นายอำเภอดำเนินสะดวก เดินทางไปเป็นผู้บัญชาการระงับเหตุ ในการ ซ้อมแผนฉุกเฉินดับเพลิง และอพยพหนีไฟ สมมุติเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บน้ำมัน Tank-1D ความรุนแรงระดับ 3 ประจำปี 2568 ของโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์จำกัด โดยมีนายคงคา คูณพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด พร้อมคณะผู้บริหาร พนักงาน บ.ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ให้การต้อนรับและมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมการซ้อมแผนในครั้งนี้
โดยการซ้อมแผนครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สมมุติ เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ถังเก็บน้ำมันดีเซล-1D ซึ่งเป็นถังเก็บน้ำมันสำรองของโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังจากเกิดเหตุทีมดับเพลิงโรงไฟฟ้า และทีมสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกกำลังควบคุมสถานการณ์อยู่ ซึ่งขณะเกิดเหตุสัญญาณเตือนภัยให้พนักงานและเจ้าหน้าที่เตรียมอพยพมายังจุดรวมพล พร้อมเช็ดรายชื่อพนักงาน ซึ่งสถานการณ์ภายในสถานที่เกิดเหตุ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย และผู้บาดเจ็บ ต่อมาได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการจัดการภาวะวิกฤต โดยมีนายเสมอ มีเนียม นายกเทศมนตรีตำบลบ้านไร่ และนายสุวิทย์ชาติ นวมเพ็ชร นายอำเภอดำเนินสะดวก ทำหน้าที่ผู้บัญชาการระงับเหตุฉุกเฉินเพลิงไหม้ครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาในการดับเพลิงประมาณ 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ ซึ่งหลังจากเพลิงสงบมีเจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บที่ขา 1 รายและได้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อย ในส่วนความเสียหาย มีปริมาณน้ำมันดีเซลที่รั่วไหลและถูกเผาไหม้ไปจำนวนกว่า10,000 ลิตร และความเสียหายที่บริเวณท่อน้ำมันและอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ รวมทั้งถังเก็บน้ำมันเสียหายบางส่วน ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการซ้อมแผนและ ทุกฝ่ายได้เข้าร่วมประชุมเพื่อสรุป การดำเนินการซ้อมแผนในครั้งนี้
นายคงคา คูณพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ กล่าวว่าวันนี้ทางโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ได้มีการสมมุติเหตุการหารซ้อมแผนฉุกเฉิน ระดับ3 โดยสมมุติเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ท่อส่งน้ำมันไปที่ถังน้ำมันดีเซลของเรา ซึ่งการซ้อมแผนครั้งนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น.โดยสมมุติมีการซ่อมท่อส่งน้ำมัน และเกิดมีประกายไฟขึ้นทำให้เกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งทางหน้างานนั้นพยายามระงับเหตุแล้วแต่ไม่สามารถระงับเหตุได้ จึงขอกำลังจากโรงไฟฟ้าให้ไปช่วยระงับเหตุซึ่งเป็นED-2 ก็ไม่สามารถระงับเหตุได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก เราจึงต้องยกระดับเป็นยกระดับ3 ก็ได้รับความร่วมมือ การช่วยเหลือจากโรงไฟฟ้าราชบุรี จาก ปตท.เขต5 จากเทศบาลตำบลบ้านไร่ เทศบาลบ้านสิงห์ นำรถดับเพลิงมาช่วย ในระหว่างการฝึกซ้อม เราก็ได้เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองราชบุรี นายอำเภอดำเนินสะดวกมาเป็นประธาน โดยสมมุติว่าเราระงับเหตุได้ โดยไม่มีเพลิงไหม้ลุกลาม แต่มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เกิดความเสียหายน้ำมันรั่วไหล 10,000 ลิตร อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุทางโรงไฟฟ้าของเราก็นังเดินเครื่องได้ตามปกติโดยใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิง ก็ไม่ส่งผลกระทบกับการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างไร ซึ่งทางโรงไฟฟ้าของเรานั้นได้ออกแบบมาตามแบบมาตรฐานสากล เราเองก็ก็ได้มีมาตรการเชิงรุก เราเองก็มีมาตรการเชิงรุกไม่ให้เกิดเหตุการณ์อยู่แล้ว และมีการฝึกซ้อมอยู่เสมอ แม้ว่าการฝึกซ้อมในวันนี้ ก็เพื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้พนักงานของเรามีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และขอให้มั่นใจว่าโรงไฟฟ้าของเรานั้นมีความปลอดภัยอยู่เสมอ และสุดท้ายขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาร่วมการฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ราชบุรี พัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื่อนมลพิษ

อดีตอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมติดตามต้นแบบ โครงการพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื่อนมลพิษ มีผลกระทบด้านการประกอบอาชีพและใช้น้ำอุปโภคบริโภค
ที่ห้องประชุมโรงแรมเซ็นการาไลฟ์ วิศม่า ราชบุรี รศ.ดร.ปฎิภาณ ปัญญาพลกุล คณะวิศกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย เปิดจัดทำโครงการพัฒนาระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื่อนมลพิษต้นแบบสำหรับการผลิตน้ำประปาเพื่อแก้ใขปัญหาน้ำบาดาลปนเปื้อนมลพิษ ที่นำมาใช้ในการบริโภค ที่เกิดขึ้นและเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยมีนายจุลพงษ์ ทวีศรี อดีตอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังแนวทางความร่วมมือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการทดสอบการใช้งานระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลปนเปื่อนมลพิษต้นแบบสำหรับการผลิดน้ำประปา ติดตามการทำงานจากปัญหาน้ำบาดาลปนเปื้อนมนพิษที่บริเวณใกล้เคียงโรงรับกำจัดกากอุตสาหกรรมได้มีการรายงาน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีการปนเปื้อนมลพิษทั้งโลหะหนัก สารอินทรีย์ และสารอินทรีย์ระเหยง่าย ที่มีปริมาณที่สูงเกินมาตรฐานคุณภาพน้ำใต้ดินหรือเกณฑ์คุณภาพน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้โดยได้ใช้พื้นที่ตำบลรางบัวอำเภอจอมบึงและตำบลน้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยนำระบบต้นแบบนำไปใช้นำร่องเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้น
นายจุลพงษ์ ทวีศรี กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมมีหลักฐานชี้บอกว่าว่ามีการลักลอบฝังกากอุตสาหกรรมสิ่งที่ปรากฏก็คือน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินมีการปนเปื้อนจากการตรวจสอบมีผลกระทบกับผู้ที่ใช้น้ำในลำน้ำห้วยน้ำพุไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จนกระทั่งส่งผลกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำให้ ไม่ปลอดภัยกับการใช้ประโยชน์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม พยายามแก้ไขในสิ่งนี้ซึ่งเราไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือเราของบเพื่อกำจัดกากบนดินและพยายามขุดเจาะสำรวจในชั้นใต้ดินมีมากน้อยเพียงใด ตราบที่เรายังไม่เอาออกไปมันก็ยังมีการปนเปื้อนน้ำทั้งผิวดินและใต้ดินกรณีที่ได้รับผลกระทบมันไม่ใช่เพิ่งเกิด มีปัญหามาตั้งแต่ปี 2546ซึ่งนานมากซึ่งผู้ที่ใช้ประโยชน์น้ำเดือดร้อนกันมากมีผลกระทบด้านการประกอบอาชีพและใช้น้ำอุปโภคบริโภค กรมโรงงานอุตสาหกรรมไม่มีงบประมาณดำเนินการในเรื่องนี้เรามีเพียงงบที่เอากากที่อยู่บนดินออกไปเท่านั้นซึ่งขอจากรัฐบาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จึงได้ประสานงานไปที่กระทรวง อว.และ วช อยากให้นำงานวิจัยออกมาให้ใช้ประโยชน์ให้สามารถผลิตน้ำสะอาดที่ได้รับความเดือดร้อนมานานได้ใช้ประโยชน์ได้เอางานวิจัยของทางจุฬาเข้ามาทดลองมาบำบัดน้ำที่ปนเปื้อนให้มีคุณภาพเท่ากับน้ำประปา โดยได้เอาระบบเข้ามาติดตั้งเพื่อทดลองแล้วจะต้องทดสอบเพื่อความมั่นใจคุณภาพน้ำเป็นไปตามที่ต้องการพร้อมที่จะส่งมอบงานหลังจากส่งแล้วทำอย่างไรให้สามารถใช้ได้และต้องมีผู้ดูแลก็จะมีการหารือกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ วช.จะทำเรื่องนี้ได้ไหมให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมีน้ำใช้จนกว่าระบบประปาที่ใหญ่กว่านี้จะเข้ามาดำเนินงานเมื่อเป็นระบบประปาแล้วก็จะมีเจ้าภาพที่จะเข้ามาดูแลหากมีระบบประปาที่เข้ามาดูแลน้ำสะอาดให้ได้ใช้เราจะนำรายการนี้รายงานไปที่กระทรวงอุตสาหกรรมหากยังไม่มีการนำของเสียออกไปกำจัดให้หมดไม่รู้ว่าจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่สำหรับโครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่มีมายาวนานคุณภาพน้ำที่ใช้ในการเกษตรและการอุปโภคบริโภคเราจะไม่ทำไม่ได้

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ราชบุรีจัดงาน “One Pride Ratchaburi 2025

จังหวัดราชบุรีจัดงาน “One Pride Ratchaburi 2025” และกิจกรรมเปิดตลาดชุมชนส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ที่บริเวณลานเด็กดิน ริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนานางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเป็นประธานเปิดงาน“One Pride Ratchaburi 2025” และกิจกรรมเปิดตลาดชุมชนส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองราชบุรี โดยมีนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มสายรุ้งราชบุรี และประชาชนร่วมงานอย่างคับคั่ง
เทศบาลเมืองราชบุรีร่วมกับจังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคีการพัฒนาด้านการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ การส่งเสริมศิลปะ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมสนับสนุนเทศกาลแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ One Pride Ratchaburi 2025 เพื่อให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกภาคส่วน ได้ร่วมแสดงออกถึงการส่งเสริมความเสมอภาค สิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน และการให้ความสําคัญกับความรักทุกรูปแบบที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน และคุณค่า ของสิทธิในการมีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติของคนทุกเพศ ภายใต้แนวคิด One Pride หลอมรวม ทุกความภาคภูมิใจให้เป็นหนึ่งเดียวบนพื้นฐานของความหลากหลาย
โดยมีการจัดขบวนพาเหรด ภายใต้แนวคิด One Pride แตกต่างเป็นหนึ่งเดียว การจัดพิธีจดทะเบียนสําหรับการสมรสเท่าเทียม การจัด Art Market กิจกรรมศิลปะ ภายใต้คอนเซปต์ One Pride กิจกรรมการแสดง DJ EDM Cover Dance Show กิจกรรมเปิดลานโชว์ตามสไตล์ กิจกรรม Street Art กิจกรรม Tattoo painting การแสดงศิลปะหน้าหอศิลป์ดีคุ้น และกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน พร้อมกันนี้ เทศบาลเมืองราชบุรี ได้จัดกิจกรรมเปิดตลาดชุมชนส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว บริเวณลานเด็กดิน ริมเขื่อน รัฐประชาพัฒนา เพื่อจัดให้มีตลาดชุมชนส่งเสริมเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างอาชีพและรายได้ ให้แก่ชุมชน ส่งเสริมพื้นที่บริเวณลานเด็กดิน ริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฐานะเมืองอาร์ตริมน้ํา ของจังหวัดราชบุรีต่อไป

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ราชบุรี เทศกาลอาหารอร่อยและของดี 129 ปี

เที่ยวงาน “เทศกาลอาหารอร่อยและของดี 129 ปี เมืองคนงามบ้านโป่ง”
ที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง(ริมแม่น้ำแม่กลอง) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง นายกฤษฎา ประดิษฐ์กุล นายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง นางสาคร เลิศชุติมากุล นายก อบต.หนองกบ พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนันทั้ง 15 ตำบลของอำเภอบ้านโป่ง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลอาหารอร่อยและของดี 129 ปี เมืองคนงาม บ้านโป่ง” ระหว่างวันที่ 4 - 6 กรกฎาคม 2568 ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองบ้านโป่ง ริมแม่น้ำแม่กลอง ในการแถลงข่าววันนี้ ยังได้นำสาวงามเมืองบ้านโป่ง ที่จะเข้าทำการประกวดมาเดินโชว์โฉม และการแสดงของวงโยธวาทิตโรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง และผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ของกลุ่มแม่บ้าน มาตั้งแสดง สร้างสีสันของการแถลงข่าว
นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง กล่าวว่า บ้านโป่งเป็นอำเภอสำคัญอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีศักยภาพหลากหลาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่ และบ้านโป่งยังมีความเจริญทางเศรษฐกิจ ซึ่งมาจากภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม และยังเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็กและใหญ่จำนวนมาก นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของอู่ต่อรถยนต์บรรทุกและรถบัสหรายแห่ง และยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสายมรณะ “สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก”ต.หนองกบ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ อำเภอบ้านโป่ง ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารที่อร่อยและมีอาหารหลากหลายชนิด ดังนั้น เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของดีบ้านโป่ง ให้ประชาชนทั่วไปให้รู้จัก อีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมการท่องเที่ยว..โดยให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรี รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ทางอำเภอบ้านโป่งจึงได้ร่วมกับทางหน่ายงานภาครัฐและเอกชน ผู้นำท้องถิ่นจัดงานนึ้ขึ้น และให้เป็นงานประจำปีของอำเภอบ้านโป่ง ทุกปี
สำหรับในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 จะมีพิธีเปิดงาน เริ่มจากริ้วขบวนแห่จากวงเวียนน้ำพุ (หน้าสถานีรถไฟบ้านโป่ง) เคลื่อนขบวนมาตามถนนแสงชูโต ผ่านวงเวียนหอนาฬิกา และผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านโป่ง มุ่งหน้าไปที่ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองบ้านโป่ง ริมแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน โดยจะมีพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ จากนั้นชมการแสดง แสงสี ประวัติความเป็นมาของอำเภอบ้านโป่ง และการแนะนำอาหารและของดีอำเภอบ้านโป่ง ร่วมทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สำหรับงานในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ชมการประกวดร้องเพลง “สิงห์ประชันเพลง” ระหว่างชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านกับคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ชมการประกวดสาวงามเมืองบ้านโป่ง ซึ่งจะมีสาวงาม 17 ท่าน ที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 17 แห่ง ส่งเข้าประกวด จะมาร่วมเดินประชันโฉมบนเวทีประกวด เพื่อชิงตำแหน่งสางงามเมืองบ้านโป่ง ในปีนี้

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ราชบุรี หน่วยงานเข้าตรวจสอบท่าเรือ

หน่วยงานเข้าตรวจสอบท่าเรือ หลังนักท่องเที่ยวร้องค่าเรือในตลาดน้ำแพงแท้จริงขอซื้อแพคเก็ตทัวร์ในการนั่งเรือท่องเที่ยวอีกด้วย
จากกรณีที่มีเพจเฟสบุ๊คชื่อ พวกเราคือผู้บริโภค ได้โพสต์ข้อความ วันนี้ไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่หนึ่งมาค่ะ รวมค่านั่งเรือ 3 คน 9500 บาท คนขับเรือบอกราคาปกติเหมือนกันทั้งคนไทยและต่างชาติระยะเวลาประมาณ 10 โมง-ไม่เกินบ่ายโมง ต่างชาติ 2 คน ไทย 1 ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์ข้อความออกไปทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นรวมถึงแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปจำนวนมากซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบแล้วก็พบว่า ท่าเรือที่นักท่องเที่ยวพูดถึงคือท่าเรือนัมเบอร์วัน ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 5. ต.ตาหลวง. อ.ดำเนินสะดวก. จ.ราชบุรี
นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางสาวรุ่งฤทัย เกิดแจ้ง นักวิชาการพานิชย์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้แทนพานิชย์จ.ราชบุรี นายนพดล เพิ่มพูนทวีชัย ปลัดอำเภอดำเนินสะดวก พ.ต.อ.กรฤวิศวร์ ทองศรีวานิช ผกก.1 บก.ททท.3. เจ้าหน้าที่กอ.รมน.จ.ราชบุรี และกรมเจ้าท่า ได้เข้าตรวจสอบท่าเรือต้นเหตุโดยพบกับนางสาวกิ่งกมล เกตุไสว พนักงานขายตั๋วในท่าเรือนัมเบอร์วัน ก็ให้ข้อมูลว่า จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวโพสต์เรื่องราวว่าค่าเรือแพง และเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นท่าเรือของตนเอง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาโดยรถตู้เข้ามาและขอซื้อแพคเก็ตทัวร์ในการนั่งเรือท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวมา 3 คน เป็นชายชาวญี่ปุ่น 2 คน และคนไทยที่เป็นผู้หญิง 1 คน พร้อมกับต้องการซื้อแพคเก็ตในราคาเหมาจ่ายหัวละ 3000 บาท ซึ่งจะมีโปรมแกรมเพิ่มจากที่ทางท่าเรือตั้งไว้คือค่าเรือชั่วโมงแรก 2000 บาท ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 1000 บาท ซึ่งใน 1 ชั่วโมงนั้นจะมีสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่ง คือ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เตาตาล และวัดปรก แต่นักท่องเที่ยวจะขอไปเที่ยวเพิ่มอีก 2 แห่งคือไปขี่ช้างที่ปางช้างซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหัวละ 700 บาท และไปดูบ้านกระเหรี่ยงคิดราคาหัวละ 500 บาท ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมค่าเรือและค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวเพิ่มอีก 2 สถานที่ ทางท่าเรือจึงคิดเหมาหัวละ 3000 บาท ส่วนอีก 450 บาท นั้น เนื่องจากลูกค้ามีเงินสดไม่พอจึงขอรูดบัตร ซึ่งทางท่าเรือไม่มีจึงได้ไปรูดบัตรในตัวตลาดดำเนินซึ่งจะมีค่าบริการอีก 450 บาท จึงทำให้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 9,450 บาท ซึ่งในวันนั้นนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีการต่อรองอะไร แต่กลับมาโพสต์ลงในโซเซียลซึ่งก็ไม่ทราบว่าลูกค้าต้องการอะไร ยอมรับว่าหลังมีกระแสเรื่องนี้ออกไปทางท่าเรือก็มีผลกระทบบ้าง แต่อยากจะให้มีการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ด้านนางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี ก็บอกว่า หลังมีข่าวออกมาก็ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำค่าใช้จ่ายของทางท่าเรือมาตรวจสอบกับทางประกาศของจังหวัดเรื่องค่าเช่าเรือท่องเที่ยว ก็พบว่าค่าเรือเช่าเหมาลำนั้นเป็นไปตามประกาศของจังหวัด คือชั่วโมงแรก 2000 บาท ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 1000 บาท แต่นักท่องเที่ยวนั่งไป 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมเป็นเงิน 4500 บาท แต่นักท่องเที่ยวขอไปเที่ยวสถานที่เพิ่ม ซึ่งเป็นการตกลงกับทางท่าเรือ จึงทำให้มีการคิดค่าบริการเพิ่มรวมเป็นเงิน 9000 บาท ซึ่งอาจจะดูว่าราคาสูงและยังมีค่ารูดบัตรอีก ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่อย่างไร ทางพานิชย์จังหวัดซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ก็จะได้เชิญทางผู้ประกอบการของท่าเรือไปชี้แจงด้วย ซึ่งเรื่องของราคาที่เพิ่มจากประกาศของทางจังหวัดที่ได้กำหนดไว้นั้นเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวตกลงกัน หากนักท่องเที่ยวพอใจก็จะตกลงไปใช้บริการ และอยากจะฝากว่าตลาดน้ำดำเนิสะดวกยังรอรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งไม่มีวันหยุดและยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นตลาดน้ำอยู่ ก็อยากจะให้มาท่องเที่ยวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ
ส่วนนางสาวรุ่งฤทัย เกิดแจ้ง นักวิชาการพานิชย์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้แทนพานิชย์จ.ราชบุรี ก็บอกว่า ทางพานิชย์จังหวัดราชบุรีก็ได้มีประกาศอัตราค่าบริการค่าเรือให้กับทุกท่าเรือได้ปฎิบัติเหมือนกันทุกท่า ในส่วนของการฝ่าฝืนในมาตรา 29 ว่าด้วยพระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ ห้ามผู้ประกอบการใดจงใจหรือฝ่าฝืนทำให้ราคาสินค้าสูงหรือต่ำเกินสมควร ซึ่งก็จะมีอัตราโทษอยู่ และที่ผ่านมาทางสำนักงานพานิชย์ได้เสนอข้อร้องเรียนของนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคณะกรรมการของจังหวัด ซึ่งได้มีคำพิพากษาแล้วจำนวน 3 ท่าเรือ 5 ข้อร้องเรียน ซึ่งมีทั้งโทษจำและโทษปรับ ก็ขอเตือนให้ทุกท่าเรือได้ปฎิบัติตามคำสั่งของทางจังหวัดราชบุรี รวมทั้งเรื่องของการติดป้ายราคาที่ต้องชัดเจนด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในท่าเรือนัมเบอร์วัน หลังจากที่เป็นข่าวก็พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเดินทางมาใช้บริการอยู่ตลอดแต่อาจจะมีลดน้อยลงไปบ้าง แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงที่จะชอบใช้บริการเรือนำเที่ยวที่ไปชมวิถีชีวิตของชาวคลองดำเนินสะดวกอยู่