บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สกู๊ปพิเศษ

จังหวัดราชบุรีร่วมกันจัด “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” เมื่อมวยไทยไม่ได้เป็นแค่กีฬา แต่คือพลังขับเคลื่อนเป็นการพัฒนาเมืองในหลายมิติ
มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยที่สืบทอดมากว่าหลายร้อยปี จากเวทีรบสู่เวทีแข่งขัน สะท้อนวิถีชีวิตของบรรพบุรุษไทยที่ใช้ “หมัด–ศอก–เข่า–เท้า” ปกป้องแผ่นดิน ก่อนพัฒนาเป็น “แม่ไม้มวยไทย” ที่ทั่วโลกยอมรับ มวยไทยจึงไม่ใช่แค่ศิลปะการต่อสู้ แต่คือวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และความภาคภูมิใจของชาติ วันนี้มวยไทยกำลังถูกผลักขึ้นอีกระดับผ่านงานใหญ่ของจังหวัดราชบุรี กับโปรเจกต์ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมาก “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025”ศึกมวยที่ไม่ใช่แค่การต่อย แต่คือการ “ขับเคลื่อนจังหวัด” ครั้งสำคัญราชบุรีผนึกกำลังสร้าง “ไฟต์ประวัติศาสตร์” นายนพพล ภู่แย้ม อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ราชบุรี ผู้ขับเคลื่อนงานกีฬาในพื้นที่มายาวนาน จับมือกับ นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี ประกาศจัดไฟต์ใหญ่ในวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ที่ วัดศิริเจริญเนินหม้อ (วัดโคกหม้อ) สิ่งที่ทำให้คนราชบุรีจับตามอง ไม่ใช่แค่ขนาดของงาน แต่คือ “วิสัยทัศน์” ที่แตกต่าง จากการจัดมวยจะถูกใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาเมืองในหลายมิติ เศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว, กีฬาเยาวชน และภาพลักษณ์จังหวัด ทำไม “SUPER FIGHT 2025” จึงมีความหมายมากกว่าที่คิด? ดันราชบุรีสู่เมืองกีฬา (Sports City)
ทางด้าน นายนพพล ภู่แย้ม กลับมาขับเคลื่อนงานสังคมอีกครั้ง โดยมองเวทีมวยเป็นจุดเชื่อมโยงชุมชน เปิดพื้นที่ให้เยาวชนมีเวทีโชว์ศักยภาพ และดึงผู้ประกอบการ–OTOP ร่วมสร้างรายได้ในพื้นที่ ดึงดูดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ไฟต์ระดับประเทศทำให้ผู้ชมจากหลายจังหวัดเตรียมเดินทางมา กระจายรายได้สู่ร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และผู้ค้าในงานเวทีสร้างรายได้และโอกาสให้ชุมชน งานนี้เปิดพื้นที่ขายสินค้า OTOP และสินค้าท้องถิ่น ถือเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเป็นรูปธรรม ไฮไลต์สะเทือนวงการมวย: “พี่น้องบุญจำนงค์” ดวลกำปั้น กระแสแรงที่สุดคือ “คู่พิเศษ”นนท์ บุญจำนงค์ ปะทะ มนัส บุญจำนงค์ คู่พี่น้องเหรียญโอลิมปิกที่แทบไม่เคยมีโอกาสชกในเวทีเดียวกันมาก่อน นี่จึงกลายเป็นไฟต์ที่แฟนมวยทั่วประเทศรอชม และถือเป็นความภาคภูมิใจของคนราชบุรี เพราะ “มนัส” คือลูกหลานราชบุรีแท้ ๆ ถ้วยเกียรติยศจากบุคคลระดับประเทศ – เสริมความยิ่งใหญ่ ปีนี้มีถ้วยรางวัลจากบุคคลระดับประเทศ อาทิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมไฟต์ชิงแชมป์เข็มขัด 2 รุ่น 135 ปอนด์ : เบิกบาน ลูกเมืองเพชร พบ ภูชนะ โชติบางแสน 140 ปอนด์ : เพชรเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ พบ พร้อมรบ ก.วุฒิชัย มาตรฐานไฟต์ระดับนี้ทำให้ราชบุรีถูกจับตาในฐานะ “เจ้าภาพงานมวยมืออาชีพ” อีกจังหวัดของไทย เสียงจากผู้จัดงาน นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง“นี่คือไฟต์ใหญ่ของชาวราชบุรี และภูมิใจมากที่มีนักมวยระดับชาติอย่างมนัส บุญจำนงค์ กลับมาร่วมสร้างสีสัน งานนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้เยาวชน และเป็นกิจกรรมที่เราอยากจัดต่อเนื่องในอนาคต” นายนพพล ภู่แย้ม ผู้ริเริ่มโครงการ“เราทำงานนี้ด้วยใจรักบ้านเกิด อยากให้เด็กและเยาวชนมีเวทีพัฒนา ราชบุรีไม่ได้มีไฟต์ใหญ่แบบนี้มานาน จึงรวมพลังเพื่อน ๆ และผู้สนับสนุนมาทำให้เกิดขึ้น งานนี้ไม่ใช่แค่เวทีมวย แต่คือกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่
สำหรับการจัดงานมวยที่กลายเป็น “โครงการขับเคลื่อนจังหวัด” RATCHABURI SUPER FIGHT 2025 จึงไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่กำลังกลายเป็นงานระดับจังหวัดที่มีอิทธิพลทั้งด้านเศรษฐกิจ การกีฬา และพลังชุมชน อีกทั้งยังย้ำให้เห็นว่ามวยไทย จากรากเหง้าโบราณของบรรพบุรุษ ยังคงเป็นพลังสำคัญในการสร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างชื่อให้จังหวัดราชบุรีอย่างแท้จริงอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ราชบุรี ปิดฉาก “โอ่งมังกรเกมส์ 2025” สุดยิ่งใหญ่ ส่งมอบธงเจ้าภาพต่อให้นนทบุรีจัดต่อปีหน้า

เทศบาลเมืองราชบุรีจัดพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย รอบคัดเลือกภาคกลาง ครั้งที่ 40 “โอ่งมังกรเกมส์ 2025” พร้อมส่งมอบธงเจ้าภาพให้เทศบาลนครนนทบุรี รับหน้าที่จัดการแข่งขันครั้งต่อไปในปี 2569
ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา ปลัดจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธีปิด โดยมีผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครู นักกีฬา และประชาชนร่วมงานคึกคักพิธีเริ่มต้นด้วยการแสดงไหว้ครูมวยไทยจากนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 ชุด “นพมหาธาตุ นาฏยมวยไทย” ต่อด้วยการแสดงโขนเยาวชนสร้างสรรค์จากโรงเรียนเทศบาล 1 เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ส่งต่อธงชัยสู่ราชธานี ก่อนที่ขบวนพาเหรดนักกีฬาจะเคลื่อนเข้าสู่สนามอย่างยิ่งใหญ่ นำโดยวงโยธวาทิตโรงเรียนสาธิตเทศบาลเมืองราชบุรี และ MASCOT “น้องมังกรไฟ–น้องมังกรฟ้า” สร้างสีสันให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ โดยมีขบวนของเทศบาลนครนนทบุรีปิดท้ายในฐานะเจ้าภาพปีถัดไป
จากนั้น นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี รายงานผลการแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2568 เพื่อคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทนภาคกลางสู่เวทีระดับประเทศ “ศรีสะเกษเกมส์” ครั้งที่ 40 โดยภาพรวมการแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์ปลัดจังหวัดราชบุรีกล่าวปิดการแข่งขัน พร้อมชื่นชมทุกหน่วยงานที่ร่วมกันทำให้ “โอ่งมังกรเกมส์ 2025” สำเร็จอย่างสมบูรณ์ ก่อนมีพิธีดับไฟคบเพลิง และเชิญธงประจำการแข่งขันลงจากยอดเสาไฮไลต์สำคัญคือพิธีส่งมอบธงกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย จากนายศักดิ์ชัย พิศาลผล สู่ปลัดจังหวัดราชบุรี เพื่อส่งต่อให้นายไพฑูรย์ จารุสาร รองนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ตัวแทนเจ้าภาพ “นครนนท์เกมส์ 2026” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21–31 ตุลาคม 2569 ท่ามกลางการแสดงโขนช่วงพิธีส่งมอบธงที่สร้างความประทับใจให้ผู้ร่วมงานอย่างยิ่ง

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ราชบุรี – คอนเสิร์ตเยาวชนยามาฮ่า จุดประกายพลังสร้างสรรค์

คอนเสิร์ตเยาวชนยามาฮ่า จุดประกายพลังสร้างสรรค์ พัฒนาเด็กสู่เวทีดนตรีมืออาชีพเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยให้เยาวชนใช้เวลาว่างอย่างมีคุณค่า สร้างวินัย ความรับผิดชอบ
ที่โรงแรม ณ เวลา ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เป็นประธานเปิดงานคอนเสิร์ตประจำปี 2568 ของโรงเรียนดนตรียามาฮ่า ราชบุรี โดยมีนางณิชชารี เจริญชัยนันท์ รองนายกเทศมนตรี พร้อมผู้บริหารโรงเรียน กฤษณะ แก้วแดง และกฤติญา ธนโกจารย์ ให้การต้อนรับนักเรียนและผู้ปกครองจำนวนมาก
ก่อนเริ่มพิธีเปิดงาน ได้มีการ ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 93 วินาที เพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่ามกลางบรรยากาศสงบสำรวมและเต็มไปด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หลังจากนั้นจึงเริ่มพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและเข้าสู่การแสดงของเด็กๆ เวทีคอนเสิร์ตปีนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความภาคภูมิใจ เมื่อเด็กหลายช่วงวัยได้โชว์ความสามารถทางดนตรีที่ฝึกซ้อมมาตลอดปี ทั้งเปียโน กีตาร์ กลอง ขับร้อง และวงดนตรีผสม โดยถือเป็น “ก้าวแรกบนเวทีจริง” ที่ช่วยเสริมความมั่นใจและทักษะการแสดงออกของเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงเวทีสรุปผลการเรียน แต่คือการ “ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งดนตรี” ผ่าน 4 คุณลักษณะสำคัญ ได้แก่ หัวใจที่รักการฟัง ความปรารถนาที่จะร้องเพลง ความตั้งใจที่จะเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน จิตใจที่กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โรงเรียนยังส่งเสริมการเรียนรู้เชิงลึก ผ่านการทำงานร่วมกันในวงดนตรี ฝึกการฟังผู้อื่น การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นต่อการเติบโตเป็นนักดนตรีในอนาคต
ทางด้าน ผู้บริหารโรงเรียนเผยว่า เมื่อครบปีการเรียน โรงเรียนจะจัดเวทีให้เด็กได้แสดงผลงานจริง เพื่อพิสูจน์ศักยภาพและเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินตามหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับระดับสากล โดยเปิดสอนตั้งแต่วัย 3 ขวบจนถึงผู้ใหญ่ และทุกช่วงวัยจะได้รับการปรับรูปแบบการเรียนให้เหมาะสม เด็กๆ จึงเรียนอย่างมีความสุข ขณะที่ผู้ปกครองเองก็ได้รับความสุขจากการเห็นพัฒนาการของลูกหลานบนเวที งานคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยให้เยาวชนใช้เวลาว่างอย่างมีคุณค่า สร้างวินัย ความรับผิดชอบ และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว
การจัดงานปีนี้สะท้อนบทบาทของโรงเรียนดนตรียามาฮ่า ราชบุรี ในฐานะแหล่งพัฒนาทักษะดนตรีและเวทีผลักดันเยาวชนสู่เส้นทางดนตรีมืออาชีพอย่างมั่นใจและมีความสุข.

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ราชบุรี เตรียมระอุ มวยมันส์ เศรษฐกิจเดิน เยาวชนได้เวที

เดือด นพพล ภู่แย้ม ผนึกกำลังสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี จัด “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” ศึกมวยครั้งประวัติศาสตร์ ปลุกเศรษฐกิจ ส่งเสริมเยาวชน ดันราชบุรีสู่เมืองกีฬา
ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลหลักเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เปิดการแถลงข่าว การจัดแข่งขันมวยไทยระดับจังหวัดถูกยกระดับสู่เวทีใหญ่ นายนพพล ภู่แย้ม อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย ประกาศผนึกกำลังกับ นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี เดินหน้าจัดงาน “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” ศึกมวยยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ณ วัดศิริเจริญเนินหม้อ (วัดโคกหม้อ) อำเภอเมืองราชบุรีงานนี้ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่เวทีมวย แต่เป็น “โปรเจกต์ขับเคลื่อนจังหวัด” ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ส่งเสริมกีฬา ปั้นภาพลักษณ์เมืองราชบุรีในระดับประเทศประเด็นใหญ่ที่ถูกพูดถึง: ทำไม RATCHABURI SUPER FIGHT 2025
จึงสำคัญ นพพล ภู่แย้ม ดันราชบุรีสู่ “เมืองกีฬา” อย่างจริงจัง การกลับมาทำงานด้านสังคมของนายนพพลครั้งนี้ สร้างเสียงสะท้อนในพื้นที่ เพราะเขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่เคลื่อนไหวด้านกีฬาและกิจกรรมชุมชนมาโดยตลอด และครั้งนี้ เขาใช้เวทีมวยเป็น “เครื่องมือเชื่อมจังหวัด” กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงกีฬา เปิดพื้นที่ให้เด็กเยาวชน ดึงกลุ่มผู้ค้า–OTOP เข้าร่วมสร้างรายได้ ถือเป็นแนวทางใหม่ที่ทำให้คนพื้นที่จับตามองเป็นพิเศษ คู่พิเศษสุดเดือด “พี่น้องบุญจำนงค์” ดวลกำปั้นครั้งประวัติศาสตร์ หนึ่งในประเด็นที่สร้างกระแสอย่างมาก คือ “นนท์ บุญจำนงค์ ปะทะ มนัส บุญจำนงค์ เหรียญทอง–เหรียญเงินโอลิมปิก”สำหรับแฟนมวย นี่คือแมตช์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สองพี่น้องในตำนานขึ้นชกบนเวทีเดียวกัน ในรูปแบบคู่พิเศษเพื่อสังคม ถือเป็นไฮไลต์ที่ทำให้ผู้ชมทั้งในจังหวัดและทั่วประเทศสนใจงานนี้มากขึ้นทันทีที่ประกาศ งานมวยที่มากกว่ามวย: สร้างรายได้ให้ชุมชนผู้จัดงานกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า งานนี้ มีเป้าหมายด้านเศรษฐกิจเปิดพื้นที่สินค้า OTOPเวทีให้ผู้ประกอบการรายย่อยกระตุ้นการเดินทางเข้าพื้นที่ เพิ่มยอดขายร้านค้าในชุมชน
นี่คือจุดเด่นที่ทำให้หลายหน่วยงานในจังหวัดเตรียมเข้าร่วมและสนับสนุน ถ้วยเกียรติยศระดับชาติ ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งมีการชิงถ้วยจากบุคคลระดับประเทศนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมการชิงแชมป์เข็มขัด 2 รุ่นคือ 135 ปอนด์ : เบิกบาน ลูกเมืองเพชร พบ ภูชนะ โชติบางแสน 140 ปอนด์ : เพชรเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ พบ พร้อมรบ ก.วุฒิชัย ทำให้งานนี้มีความน่าสนใจในแง่ของ “กีฬามาตรฐาน” มากยิ่งขึ้น โดยคณะผู้จัดงานและผู้สนับสนุน นายนพพล ภู่แย้ม ผู้สนับสนุนหลัก นายสินารุ่งจรูญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี โดยมีนายมาโนช ร่มโพธิ์ พี่โอ๋ ราชบุรี นายธนูวัต ลี้สุพรชัย เสี่ยบอย) นายธนทัตต์ ดาวเงิน ต้องขาว เชียงใหม่ ทีมงานผู้จัดการแข่งขัน สำหรับการจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแข่งขันมวย แต่กำลังกลายเป็น กิจกรรมระดับจังหวัดที่สร้างความสนใจในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และกีฬา
นายสินาด รุ่งจรูญ กล่าวว่า งานนี้ถือเป็นไฟต์ใหญ่ของชาวราชบุรีอีกครั้ง และเป็นความภาคภูมิใจที่มีนักมวยระดับประเทศอย่าง มนัส บุญจำนงค์ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ กลับมาร่วมสร้างสีสันให้บ้านเรา การทำงานร่วมกับคุณนพพลและหลายฝ่าย ทำให้เรามั่นใจว่างานนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ผู้ค้า และเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาในเส้นทางกีฬา เทศบาลพร้อมสนับสนุนและผลักดันให้มีการจัดต่อเนื่อง เพื่อสร้างเวทีให้นักมวยราชบุรีได้ก้าวไกล” นายนพพล ภู่แย้ม กล่าวว่า เราตั้งใจจัดงานนี้เพราะรักถิ่นเกิด และอยากให้เยาวชนมีพื้นที่แสดงศักยภาพ ราชบุรีไม่ได้มีไฟต์ใหญ่แบบนี้มานาน ผมจึงรวมพลังเพื่อนๆ และผู้สนับสนุนมาทำให้เกิดขึ้นจริง งานนี้ไม่ใช่แค่เวทีมวย แต่เป็นกิจกรรมที่สร้างบรรยากาศเศรษฐกิจให้พื้นที่ ถ้าภาครัฐหรือหน่วยงานไหนเห็นประโยชน์และพร้อมสนับสนุน เราก็ยินดี แต่วันนี้เราทำเต็มที่ที่สุดเพื่อให้ชาวราชบุรีภูมิใจ

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ราชบุรี “ธรรมนัส” ลุยนโยบายปฏิรูปที่ดินเต็มสูบ

Kick Off ปิดป้ายเตือน–ยึดคืนแปลงใหญ่จากนายทุน เดินหน้าทั้ง 27 จังหวัด
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ณ แปลง “ราชบุรีโมเดล” หมู่ 10 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง นำทีมเปิดปฏิบัติการ “Kick off ขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน” พร้อมปิดป้ายประกาศเตือนผู้ครอบครองผิดกฎหมายและเริ่มขั้นตอนยึดคืน เพื่อนำพื้นที่กลับมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ยากไร้ โดยมี.นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นางสาวสุมิตรา วัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี นส.ธิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.เขต 5 ราชบุรี นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.เขต 3 ราชบุรี นส.กุลวลี นพอมรบดี สส.เขต 1 ราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี พร้อมทั้งข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรในพื้นที่ เดินทางมาร่วมงาน
หลังพิธีเปิด ร้อยเอกธรรมนัสได้ขับรถแม็คโครล้มปาล์มในพื้นที่ป่าสงวนเดิมที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. ตามมติ ครม. ปี 2536 เพื่อปรับพื้นที่เตรียมจัดสรรให้เกษตรกร ก่อนเดินทางไปมอบ “โฉนดเพื่อการเกษตร” แก่เกษตรกร 500 รายที่เทศบาลตำบลด่านทับตะโก และอีก 300 รายที่อำเภอบ้านคา รวมทั้งสิ้น 800 ราย ร้อยเอกธรรมนัสย้ำว่า รัฐจะเดินหน้าตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปอย่างเข้มงวด หากพบครอบครองมิชอบหรือถือครองเป็นแปลงใหญ่เพื่อประโยชน์นายทุน จะยึดคืนทันที พร้อมเร่งนำเข้ากระบวนการจัดสรรให้เกษตรกรอย่างเป็นธรรม โดยจังหวัดราชบุรีพบพื้นที่ถือครองไม่ถูกต้อง 165 ราย 166 แปลง รวมกว่า 6,500 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเพิกถอนสิทธิและจัดสรรใหม่ คาดส่งมอบได้ 152 ราย พื้นที่ 1,520 ไร่ สำหรับแปลงใหญ่ที่ยังไม่เข้ากระบวนการปฏิรูปในราชบุรี พบเพิ่มอีกกว่า 3,915 ไร่ ที่หมู่ 13 ตำบลรางบัว โดย ส.ป.ก. ได้ปิดป้ายประกาศให้ผู้ถือครองเข้าสู่กระบวนการหรือโต้แย้งสิทธิ หากไม่มีหลักฐานตามเกณฑ์จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ด้านนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า การ Kick off ครั้งนี้คือมาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติปัญหาพื้นที่ถูกเปลี่ยนมือเป็นแปลงใหญ่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวซึ่งทำลายระบบนิเวศ และเพื่อให้การจัดที่ดินตามกฎหมายปฏิรูปกลับคืนสู่ประชาชนผู้มีสิทธิตัวจริง หลังยืดเยื้อมานานกว่า 50 ปี
ทั้งนี้ โครงการ “โฉนดเพื่อการเกษตร” ซึ่ง ส.ป.ก. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2567 ตั้งเป้าครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 17 ล้านไร่ ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินและสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนให้เกษตรกร โดยจังหวัดราชบุรีมีเขตปฏิรูป 319,525 ไร่ ใน 4 อำเภอ และดำเนินการออกโฉนดเพื่อการเกษตรแล้วกว่า 5,343 ฉบับ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลเดินหน้า “ทวงคืนผืนดินให้ประชาชน” อย่างจริงจัง พร้อมขยายผลสู่ 27 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมอย่างแท้จริง